เพราะเรื่องราวในปัจจุบันก็แสนเครียด จะดูซีรีส์แต่ละเรื่องก็คิดแล้วคิดอีกจะจบดีไหมนะ จะหนักใจเกินไปหรือค้างคาใจหรือไม่ เพื่อตอบโจทย์สาวกวายที่อยากทลายความเครียด วันนี้เราจึงขอเสนอ… (แหม อย่างกับขายตรง) ‘ซีรีส์วายสายอบอุ่น’ ที่ดูแล้วทำให้เกิดความรู้สึกสุดละมุนละไม แถมยังฟินกระจาย ไม่มีตอนจบร้าย ๆ หรือเรื่องราวหนักหน่วงเกินจะรับไหว และไม่มีค้างคาดูกันได้ยาว ๆ ต่อเนื่อง เพราะจบแล้วทุกเรื่อง คัดสรรจากซีรีส์ที่ออนแอร์ปี 2020 มาเป็นอย่างดี การันตีว่าช่วยผ่อนคลายจิตใจแน่นวลลล
Cherry Magic :
สนุกปนฮา ชวนอมยิ้ม จิกหมอนแตกแทบทุกตอน
หากใครที่จิตตก อยากดูซีรีส์ที่ชวนให้อมยิ้ม ไร้ซึ่งการขบคิดและหยาดน้ำตาหรือความรู้สึกทรมานบีบหัวใจ เราขอยกให้เรื่องนี้เป็นซีรีส์วายน่าแนะนำนัมเบอร์วัน การันตีด้วยกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม แถมมีซีนชวนฟินอินจิกหมอน ชวนอบอุ่นหัวใจอยู่เยอะมากกกกกกก (ระหว่างคิดถึงไปนี่ก็อดอมยิ้มไม่ได้เลย)

Cherry Magic หรือในชื่อไทยคือ ถ้า 30 ยังซิง จะมีพลังวิเศษ เป็นซีรีส์จากแดนปลาดิบสร้างมาจากมังงะญี่ปุ่นชื่อดังเรื่อง 30-sai made Doutei da to Mahou Tsukai ni nareru rashii: CheriMaho ผลงานของ ยู โตโยตะ (Yuu Toyota) ตัวซีรีส์มีทั้งหมด 12 ตอน ตอนละประมาณครึ่งชั่วโมง จึงเป็นซีรีส์ความยาวขนาดกลางที่ใช้เวลาดูกำลังดี และด้วยความที่ได้นักแสดงนำอย่าง เอย์จิ อะคะโซ (Eiji Akaso) เคย์ตะ มาจิดะ (Keita Machida) ซึ่งทั้งหน้าตาดี น่ารักน่าเอ็นดู แถมยังเล่นได้ดีเป็นธรรมชาติประหนึ่งใช้ตัวจริงมาเล่นก็ยิ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูได้ดีดูได้เพลินไปกันใหญ่
พลอตเรื่องก็เปิดมาแบบง่าย ๆ สั้น ๆ ตามชื่อเรื่องในฉบับภาษาไทยเลย คือ หากอายุ 30 แล้วยังเวอร์จิ้นอยู่ จะมีพลังพิเศษ ! และคนที่ยังเวอร์จิ้นอยู่ในกรณีนี้ก็คือนายเอก คิโยชิ อาดาจิ ที่พอเข้าสู่วันเกิดมีอายุครบ 30 ปี พอดีนั้น จู่ ๆ เขาก็อ่านใจคนอื่นได้ด้วยการสัมผัสตัวขึ้นมา และที่พีคไปกว่านั้นคือเขาดันเผลอไปอ่านใจ ยูอิจิ คุโรซาวะ หนุ่มหล่อสุดฮอตประจำบริษัท แล้วพบว่าหนุ่มที่แสนจะเพอร์เฟกคนนั้น กลับมา ‘ตกหลุมรัก’ หนุ่มจืดชืดไร้ตัวตนอย่างเขาซะนี่ … นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว แล้วแบบนี้เขาจะทำยังไงดีล่ะ ?!

นอกจากความน่ารักปนว้าวุ่นโก๊ะกังของนายเอกแล้ว จังหวะจะโค่นในเรื่องยังดูสนุก สอดแทรกความตลกโปกฮา เรียกเสียงหัวเราะสลับรอยยิ้มไปได้ตลอดเรื่อง ดูแป๊บ ๆ ก็จบตอนไปอย่างรวดเร็ว แถมบทจะซึ้งก็ชวนยุกยิก ดูแล้วก็กรุ่มกริ่มตรึงใจใช้ได้ ใครอยากดูซีรีส์ที่ให้ทั้งสนุก บันเทิง อบอุ่นประหนึ่งเหมือนอยู่ในเทศกาลงานฉลองแบบคริสต์มาสแล้วละก็ ห้ามพลาดเรื่องนี้เลยทีเดียว
อ่านรีวิวซีรีส์ Cherry Magic ได้ >> ที่นี่
Life-Love on the Line :
ดราม่าเรียกน้ำตา และความอุ่นกรุ่นหัวใจ
อีกหนึ่งซีรีย์ญี่ปุ่นวาย แต่ต่างจากเรื่องแรกที่แนะนำไป เพราะนอกจากความโรแมนติกแล้วเรื่องราวยังค่อนข้างดราม่า สะท้อนสภาพสังคมญี่ปุ่นได้อย่างแนบเนียนสมจริงอีกด้วย (…แต่ไม่ถึงกับเคร่งเครียดหรอกนะ คอนเฟิร์มว่าจบดี อุ่นใจได้จ้าา)

ด้วยความยาวเพียงแค่ 4 ตอน ซีรีส์เรื่องนี้จึงถูกจัดให้เป็นมินิซีรีส์ แต่ความหนักหน่วงและประเด็นของเรื่องก็ทำให้เราอดทึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะใช้เวลารวมในการเล่าเรื่องพาให้เราทั้งอินทั้งซึ้งภายใน 2 ชั่วโมงเท่านั้น (นี่มันระดับเดียวกับภาพยนตร์เลยนะเนี่ยยย …เฉลี่ยความยาวตอนละประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง) เหมาะสำหรับคนไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากซึ้ง อยากฟิลกู้ดแบบเร่งรัดสุด ๆ
Life-Love on the Line สร้างจากมังงะชื่อดังเรื่อง ‘Life Senjou no Bokura’ ผลงานของ โทโคคุระ มิยะ (Tokokura Miya) ที่ถ่ายทอดความหมายของชีวิตและความรักผ่าน ‘เส้น’ ซึ่งเป็นทั้งตัวเดินเรื่องที่ทำให้พระ-นายมาเจอกัน และสะท้อนนัยยะของการเลือก ‘เส้นทางชีวิต’ ที่สังคมหรือตนเองเป็นผู้กำหนด

เรื่องราวของเส้นทางความรักและชีวิตนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันหนึ่ง อิโตะ อากิระ นักเรียนมัธยมปลายอายุ 17 ปี ได้พบกับ นิชิ ยูกิ หนุ่มหน้าใสไร้เดียงสาที่กำลังเดินตามเส้นสีขาวบนถนน ซึ่งเป็น ‘เกม’ ที่ทั้งคู่จินตนาการว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวอยู่นอกเส้นขาวเหมือน ๆ กัน และด้วยความที่ทั้งคู่ต่างจริงจังในการเล่นเกมนี้ ทั้ง 2 จึงถูกคอกันอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักอิโตะก็ตกหลุมรักนิชิ ความสัมพันธ์กับการเติบโตของคนทั้งคู่จึงก้าวเดินไปพร้อม ๆ กัน…
ความดีเด่นของเรื่องนี้ คือมีทั้งเส้นเรื่องที่แข็งแกร่ง ตัวละครที่ชวนอิน และนานาฉากสวยชวนฟินที่มีแสงละมุนละไมให้ไออุ่นทางสายตา ถ่ายเทความอบอุ่นไปยังหัวใจด้วย ความฟินก็ไม่อาจถึงขนาดเรียกได้ว่าจิกหมอนขาดกระจาย แต่พอดูจบแล้ว ความเต็มตื้นจะอ้อยอิ่งอยู่ในหัวใจอีกนานเลยทีเดียว
อ่านรีวิวซีรีส์ Life-Love on the Line ได้ >> ที่นี่
(อ่านต่อหน้า 2 คลิกด้านล่างเลย)
