หากเอ่ยถึงคู่จิ้นจากแดนมังกรที่บรรดาสาวกไทยต่างลงความเห็นว่า อยากจะโยนไม้พายทิ้งเพราะกัปตันแล่นเรือแรงเสียจนอยากเปลี่ยนคำว่าคู่จิ้นเป็นคู่เรียลสุด ๆ แล้วละก็ นาทีนี้คงไม่พ้น ‘หวังอี้ป๋อ (WangYibo) และ เซียวจ้าน (XiaoZhan) สองหนุ่มพระเอกจากซีรีส์ “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” ที่ดังฮิตข้ามปี กระแสดีชนิดที่ปัจจุบันก็ยังมีคนเปิดดูวน จนเกิดวลีเด็ด “หลงกูซู เข้าแล้วออกไม่ได้” แต่เพราะอะไรทำไมเหตุใดคนคู่นี้จึงดังในลักษณะ ‘คู่กัน’ ไม่มีหยุด ทั้งที่งานร่วมกันหลังจบซีรีส์ก็แทบไม่มีสักนิด เรามาลองวิเคราะห์กันดูสักหน่อยสิว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่
เพื่อหาคำตอบที่ไม่ใช่การมโนไปเอง เราจึงลองสำรวจความคิดเห็นจากบรรดาชิปเปอร์ป๋อจ้านในไทยทั้งหลายรอบกาย ๆ ทั้งในทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยคำถามที่ว่า
1) ครั้งแรกที่ประทับใจเคมีของคนคู่นี้คือเมื่อไหร่ เพราะอะไร
2) อะไรที่ทำให้รู้สึกว่า นี่มันเรียลเกินไปแล้วววว
และเมื่อได้คำตอบมาแล้ว เราเลยสรุปออกมาได้เป็นหัวข้อกว้าง ๆ ตามนี้
ซีรีส์ดี แสดงแล้วเข้ากัน จุดกำเนิดความปังแรก
“เพราะสายตาที่มองกันนั่นแหละ ทำให้หยุดตามดูสองคนนี้ไม่ได้เลย”
“ตอบยากจัง ดูไปเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ”
“รู้สึกว่าสองคนนี้เข้ากันได้ดีมาก เวลาเล่นกันแล้วดูน่ารักดี เลยอยากให้เขาได้คู่กันจริง ๆ”
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าซีรีส์ ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ได้ข้ามขอบเขตความเป็นระดับชาติ ไปเป็นระดับโลกแล้ว เพราะนอกจากจะกลายเป็ยละครยอดฮิตเรตติ้งสูงสุดในจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อนำมาฉายในไทยทางแพล็ตฟอร์ม WeTV ก็ดันยอดผู้ใช้งานให้โตขึ้นถึง 250% และมียอดดาวน์โหลดเฉลี่ยถึงเดือนละล้าน ขณะเดียวกัน ในโลกโซเซียล ชื่อของละครก็ติดเทรนด์ แฮชแท็ก ทวิตเตอร์ อันดับ 1 ติดต่อกันถึง 3 วันที่ออกอากาศ ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ แซงหน้าละครไทย รายการไอดอลเกาหลี และทุกกระแสดราม่า ตลอดช่วงเวลาการฉาย ซึ่งนำไปสู่การประกาศจัดงาน ปรมาจารย์ลัทธิมาร Fanmeeting in Thailand ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2562 แถมยังคว้ารางวัล 7th Thailand Headlines Person of The Year 2019 สาขา The Most Influential Award ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘ซีรีส์จีนยอดนิยมแห่งปี’ อีกด้วย

ด้วยความดังระเบิดถล่มทลายทั้งในไทยและจีน ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ จึงถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และกัมพูชา และในที่สุด Netfilx ก็ซื้อลิขลิทธิ์ไปสตรีม ทำให้เกือบทุกประเทศทั่วโลก เข้าถึงซีรีส์เรื่องนี้ และพากันคลั่งไคล้ไปทั่ว จนติดอันดับ 1 ใน 50 ชีรีส์ยอดนิยมระดับโลกในปี 2019 ของ Tumblr โดยครองอันดับที่ 36 นับเป็นซีรีส์จีนเรื่องแรกที่ฮิตจนเข้าชาร์ตนี้ได้
สำหรับเหตุผลที่มาของความฮิต นอกจากพลอตเรื่อง ข้อคิดคำสอนที่สอดแทรก และความสวยงามของโปรดักชั่นแล้ว ความสามารถของนักแสดงยังเป็นที่ประจักษ์มาก ๆ โดยเฉพาะเซียวจ้านที่รับบทเว่ยอู๋เซี่ยน ก็เปลี่ยนจากดาราหน้าใหม่ให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์สุดฮอตในชั่วข้ามคืน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ซีรีส์เรื่องนี้ก็อาจจะยังไม่ดังเปรี้ยงเท่านี้ หากฐานแฟนคลับเดิมจากนิยายและอนิเมะ (ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากนิยายชื่อดังในชื่อเดียวกัน และมีการผลิตอนิเมะออกมาก่อนหน้านี้) ผู้ที่เป็นสาวกวายจ๋า ๆ ไม่ยอมรับการรับ-ส่งความรู้สึกระหว่างสองนักแสดงหลักในเรื่อง (เราเองก็เป็นเช่นนั้น) ก็อาจจะเลิกดูไปกลางเรื่อง และซีรีส์ก็อาจจะไม่เป็นที่นิยมในวงกว้างถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตาม ทั้งหวังอี้ป๋อที่รับบท หลานวั่งจี และเซียวจ้าน ผู้รับบท เว่ยอู่เซี่ยน สองตัวละครที่ต้องลงเอยครองคู่กันในนิยาย ก็แสดง ‘เคมี’ ชวนฟิน ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะแม้จะเป็นนิยายวายชัดเจน แต่ตัวซีรีส์กลับไม่สามารถถ่ายทอดในจุดนี้ได้ เนื่องจากนโยบายและการควบคุมดูแลสื่อของรัฐบาลจีน แต่ผู้กำกับและทีมงานก็ยังอุตส่าห์ดัดแปลงให้เป็นซีรีส์แนวมิตรภาพ ที่มีกลิ่นอายความวายเคลือบแฝง ไม่ทำลายโมเมนต์ไปเสียทั้งหมด โดยสอดแทรกสิ่งละอันพันละน้อยไว้ในฉากต่าง ๆ ได้อย่างมีชั้นเชิง ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ทำให้คนดูสายจิ้นรู้สึกได้ชัดคือ ‘งานสายตา’ ของคนทั้งคู่ อย่างที่เป็นคำตอบของใครหลายๆ คนนั่นเอง



เพราะคาแรกเตอร์ของหลานวั่งจีพูดน้อยมากถึงมากที่สุด ดังนั้น ผู้รับบทบาทอย่างหวังอี้ป๋อ จึงจำต้องถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อเว่ยอู๋เซี่ยนผ่านทางสายตาอยู่เสมอ และเขาก็ทำได้ดีมาก ๆ ชนิดที่ว่าหลายคนอดชื่นชมอยู่ในใจไม่ได้ มันช่างตรึงตาตรึงใจ สมจริงชวนอินและฟินเสียเหลือเกิน …เท่านั้นแหละ เคมีระหว่างสองหนุ่มก็พุ่งเตลิด จนหลายคนต่างพากันรีรันฉากสายตากันซ้ำ ๆ ไม่มีเบื่อ แถมพอดูไปเรื่อย ๆ ก็กลายเป็นถอนตัวจากการรับ-ส่งสายตาของสองคนนี้ไปไม่ได้เสียแบบนั้น…แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
(อ่านต่อหน้า 2 คลิกด้านล่างเลย)
