ค้นความสัมพันธ์สองนักแสดงเคมีใหม่ ‘มอส – ภาณุวัฒน์ โสประดิษฐ ’ และ ‘แบงค์ – มณฑป เหมตาล’ ที่ได้ร่วมงานกันครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง ‘มังกรกินใหญ่ Big Dragon The Series’ พร้อมเผยความประทับใจที่มีต่ออีกฝ่าย เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันผ่านการแสดงในซีรีส์เรื่องนี้

ถ่ายแบบกับ madan ในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง
มอส: ก็สนุกดีครับ พี่ ๆ น่ารัก ไกด์ท่าโพสต์ให้ตลอด ผมเป็นคนถ่ายแบบไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ มีพี่ ๆ ช่วยก็ ผลงานออกมาถือว่าเกินคาด ก็มีความสุขดีครับ สนุกด้วยครับ
แบงค์: ผมอ่ะ แบบ มีเรื่องนึงที่สะดุดตามาก ๆ คือเรื่องของอาหารการกิน ผมจะบอกว่าเลี้ยงดีมาก คือใครที่มาทำงานที่นี่นะครับ บอกเลยว่าเลี้ยงดีมาก ๆ อันนี้คือในพาร์ตของ สวัสดิการ การดูแล
แต่ถ้าในเรื่องของการทำงานที่มา shooting นะครับ คือด้วยความที่ เหมือนพี่เขารู้ว่าเราชอบอะไร เขาก็เหมือนเอาสิ่งที่เราชอบอ่ะมาแตกแขนงออกมาให้เป็นรูปเป็นร่าง ก็แบบ ถูกใจมากครับ ตอนนี้คือรอดูรูปแล้ว
มอส: พี่ ๆ เขาทำการบ้านมาดี
แบงค์: ใช่
มอส: รีเสิร์ชว่าเราชอบอะไรแล้วก็อยากทำอะไร หรือว่าเรายังไม่ทำอะไรเขาก็ไปรีเสิร์ชมา แล้วก็เอามาให้เราทำวันนี้
แบงค์: ใช่ครับ
madan: แล้วนี่เลย เราแน่ ๆ เราไม่เคยลงอ่างกันแน่นอน
แบงค์: จริง ๆ
มอส: จริง ๆ อยากจะบอกว่า พึ่งลงมา พึ่งลงมาเดือนที่แล้วครับ แล้วเป็นอ่างใหญ่ด้วย
แบงค์: จริง ๆ เคยลงแล้ว แล้วตอนนี้เหมือน กิมมิคของเราสองคนคือลงอ่างเลยอ่ะ คือในเรื่อง อุ๊ย สปอยหรือเปล่า ในเรื่องก็อะไรซักอย่างในมิวสิกวิดีโอ ก็ลงอ่าง อันนี้ก็ลงอ่าง เราเลยรู้สึกว่า หึย หรือแบบ คาแรกเตอร์ของเราสองคน
มอส: สัญลักษณ์ของเราคืออ่าง
แบงค์: คืออ่างหรือเปล่า
มอส: เออ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าก็ เป็นอ่างที่ไม่เหมือนกันนะ
แบงค์: ใช่ มีความแตกต่าง
มอส: อันนี้มีความวินเทจ
แบงค์: อันนี้มีความแบบ เขาเรียกว่า อ่า มันจะมีความ…
มอส: Japanese
แบงค์: ไม่ใช่ ๆ เราว่ามันมีความแบบ เก่า แบบ.. เขาเรียกว่าอะไรอ่ะ เป็นฟิลแบบ disney เขาเรียกว่าอะไรอะ เป็นฟีลแบบ
madan: วินเทจ
มอส: เป็นฟีลแบบ เจ้าหญิง เจ้าชายไง ที่อยู่ใน disney
แบงค์: เออ ๆ เป็นฟีลยุคนั้นอ่ะ เป็นฟิลยุคเจ้าหญิง เจ้าชาย หรือว่า อะไรที่มันมีความแฟนตาซี รู้สึกว่าอันนี้มันมีความแบบนั้น
มอส: แล้วก็มีอะไร แอปเปิ้ล
แบงค์: ใช่
มอส: เออ
แบงค์: มีน้องเป็ดด้วย

คอนเซ็ปต์ที่ถ่ายกัน มีตรงไหนที่คิดว่ายาก ง่าย หรือส่วนที่ชอบที่สุด
มอส: ยากที่สุดสำหรับผมนะครับก็คือ ถ่ายคนเดียว ไม่มีอะไรเลย อยู่แค่กับเสื้อผ้ากับตัวเอง ผมรู้สึกว่ามันเป็นการถ่ายแบบที่ยากสุด ๆ สำหรับผม เพราะว่า ผมเป็นคนมูฟเมนต์ร่างกายไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ คือ ข้อเสียของผมคือ ผมเป็นคนตัวสูง ขายาว แล้วก็ เป็นคนไม่เต้น เต้นไม่เป็น พอเต้นไม่เป็น เวลาผมมูฟร่างกายอ่ะ มันจะตลก ก็ถ้าไม่มีอะไรถือจับ หรือไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ผมก็จะมูฟเมนต์ไปเรื่อย แล้วบางทีก็จะตลก ผมก็เลยจะไม่มั่นใจ
madan: ตลกหรอ ไม่เชื่อหรอก ยังไงลองมูฟสิ
มอส: เห้ย อาจจะเป็นฟิล อ่า นั่นแหละ ก็ไปหาดูรูปแล้วกัน
แบงค์: เอาจริง ๆ นะ ถ้าคนเห็นรูปอ่ะคนจะคิดว่าพูดถ่อมตัว เพราะในรูปดีมาก
มอส: ไม่ก็แต่ก่อนเราอาจจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า แต่พอเราทำงานไปเรื่อย ๆ อะไรแบบนี้ พี่ ๆ ก็สอน เธอก็สอน ใคร ๆ ก็สอนเราอะไรแบบนี้ แล้วก็มีประสบการณ์มากขึ้น ก็เอามาปรับใช้ เราอาจจะทำดีขึ้น ในรอบหลัง ๆ อะไรแบบนี้ แต่ว่าตอนแรก ๆ ที่เราเข้ามาทำ เราโดนทักตลอด ว่าเรามูฟเมนต์ไม่สวยเลยอะไรแบบนี้ แล้วก็ทำให้มันค่อนข้างที่จะเป็นปม เวลาถ่ายแบบนี้ แล้วก็กลัวว่าเวลาถ่ายอยู่คนเดียวเนี่ย ก็กลัวว่าจะถ่ายออกมาไม่สวย แต่เวลามีเพื่อน มีพี่แบงค์ หรือมีพร็อพอะไรแบบนี้ให้เราจับ เราสามารถทำได้ดีเลย อย่างอ่างผมทำได้ ดอกไม้ผมทำได้ เพราะว่าผมรู้สึกว่าผมสามารถเล่นกับมันได้ ผมไม่ได้อยู่คนเดียว
ใช่ ถ้าอยู่คนเดียวเนี่ยผมไม่รู้จะเล่นอะไร มือบางทีผมก็เกร็ง บางทีผมก็ไม่รู้จะยัดใส่กระเป๋ากางเกง หรือต้องจับหัว ต้องจับแบบนี้ คือมันยากไม่หมดเลย แต่ว่า นั่นแหละพอถึงเวลาที่เราต้องทำก็ต้องทำ แล้วก็ให้ร่างกายมันไปตามอารมณ์ของมัน ใช่ ก็.. ผลออกมาจะยังไงก็ ก็ตามนั้น อื้มใช่
madan: ยากสุดคือตอนถ่ายแบบที่เป็นแฟชั่นเซ็ตแรกใช่ไหมคะ
มอส: ใช่ ๆ ช่วงนั้นจะยาก แต่ว่าช่วงหลัง ๆ คือจะชิลแล้ว แล้วก็ง่ายมาก เพราะว่ามีพร็อพหรือว่ามีพี่แบงค์ด้วย
Madan: พี่แบงค์ล่ะคะ พี่แบงค์ ตรงไหนที่ชอบที่สุดหรือว่ายากที่สุด หรือว่าอยากพูดถึง
แบงค์: จริง ๆ ชอบ ผมอ่ะชอบทั้งสองเซ็ตเลย มันแบบ อย่างเซ็ตแรกผมว่า ชอบสี ด้วยความที่เราอะชอบสีแดง แล้วพอเอาแดงมาอยู่กับ background แดง มันเหมือนแดง IN แดง มันเลยทำให้แบบ มีเลเยอร์ของความเป็นแดงหลาย ๆ เฉด มันเปรียบเสมือนกับคนเราเกิดมา เป็นมนุษย์เหมือนกันแต่จริง ๆ แล้วไม่เหมือนกัน ก็เลยรู้สึกชอบ
แล้วก็อีกอันที่เป็นสีขาวเราก็รู้สึกว่า มันดูเหมือนจะหวาน แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่มาตัดไม่ให้เลี่ยนเกิน ก็รู้สึกว่ามันเป็นคอนเซ็ปต์ที่แบบ พี่คิดมาดีแล้วผมก็ชอบ แต่ถ้าชอบที่สุดอ่ะผมชอบแดง เพราะเราอ่ะเป็นคนชอบสีแดงมาก แล้วพอเราใส่สีที่เราชอบ เราก็จะรู้สึกแบบ มั่นใจ เรารู้สึกว่า หึย นี่คือสีของเรานะ เรามั่นใจ แล้วก็ทำออกมา คิดว่าน่าจะแบบ โอเค

ประทับใจช็อตไหนของอีกฝ่ายบ้าง
มอส: ถ้าของเขาหรอครับผมรู้สึกว่า พี่แบงค์อ่ะเป็นคนมูฟเมนต์ร่างกายสวยมาก เขาสามารถยืนอยู่นิ่ง ๆ แล้วก็ แค่ทำแขนไปเรื่อย ๆ อย่างนี้รูปออกมาสวยเลย ผมชอบที่เขาถ่ายแฟชั่นเซ็ตแรก ชอบมาก ๆ
แบงค์: ฉีดยา ยกแขนจะไม่ขึ้นแล้ว
มอส: เขาสามารถทำออกมาได้ดีตลอด ๆ ตลอดการทำงานพี่ผ่านมาเขาทำได้ดีตลอด มีแค่ตัว แบบมีเสื้อผ้าแล้วก็ตัวแบบนี้ แค่นี้ก็ทำได้ดีเลย ไม่ต้องมีอะไรเพิ่ม ใช่ ก็ชอบ ไม่ใช่แค่เซ็ตนี้นะครับ ก็ชอบตลอดเลย
Madan: ชอบทุกเซ็ต
แบงค์: ครับ ส่วนของมอสเราว้าว ซีนที่เขาอยู่กับตัวเอง แล้วก็มีดอกกุหลาบ เรารู้สึกว่า เขา… เขาเหมือนมี ภาพในหัว แล้วก็สื่อออกมา แล้วด้วยความแบบ จิกกล้อง การมอง การวางปาก วางตา position การถือดอกกุหลาบ มัน ๆ ๆ มันสมบูรณ์แบบมาก เราชอบอันนั้นที่สุด แล้วเราก็ไม่ได้ไกด์อะไรเขาเลย เราไม่ได้เดินมาสอนเขาเลย เขาทำด้วยตัวของเขาเอง เพราะฉะนั้นมันแบบ มันเป็นสิ่งที่ เขาพัฒนาขึ้น เก่งขึ้น
มอส: ขอบคุณไงขอบคุณ แต่ปกติไม่ขอบคุณหรอก ทำไปงั้นอ่ะ
แบงค์: สร้างภาพ
madan: อันนี้ให้บอกไปแล้วว่าชอบอะไรของกันและกันใช่ไหมคะ ตอนนี้มอสกับแบงค์ก็คือ ถ่ายซีรีส์ ‘มังกรกินใหญ่’ ซึ่งตอนนีซีรีส์ปิดกล้องไปเรียบร้อยแล้ว
มอส – แบงค์: ใช่ครับ
madan: ตอนแรกเราเจอกันกับ Madan.fun เนี่ย ตอนนั้นยังไม่เริ่มถ่ายเลย
มอส – แบงค์: ใช่

จากที่ ‘มอส – แบงค์’ ร่วมงานกันในซีรีส์ ‘มังกรกินใหญ่ Big Dragon The Series’ คิดว่าอีกฝ่ายเก่งขึ้นหรือพัฒนาขึ้นอย่างไรบ้าง
แบงค์: เราพูดก่อนใช่ไหม คือถ้าอย่างของมอส คือด้วยความที่มอส ไม่เคยทำอะไรในวงการมาก่อนเลย แม้แต่ถ่ายรูปก็ไม่เคย ไม่เคยทำอะไรจริง ๆ แบบใหม่มาก ๆ แค่แบบ เค้าเรียกว่าอะไร แค่ฟิตติ้งชุด ก็เป็นสิ่งที่เขาตื่นเต้นแล้ว มันเป็นสิ่งใหม่ของเขาอะไรแบบนี้ ซึ่งผมอ่ะ ก็รู้สึกว่าแอบกังวล หึย มอสจะไหวหรือเปล่า เราก็เข้าไปสอนเขาเยอะมาก แล้วด้วยความที่เรื่องนี้มันมีความเป็นมนุษย์สูง คือมันเป็นเรื่องที่แบบ ตัวละครสามารถ รัก โลภ โกรธ หลง ตัวละครไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนดี ตัวละครเกิดมาเพื่อเป็นมนุษย์ แล้วก็เรียนรู้ แล้วก็พัฒนาไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ เพราะฉะนั้นมันจะมีความ Real เยอะมาก มันต้องเข้าใจ
แบงค์: ซึ่งเขา ชอบพูดว่าตัวเองอ่ะทำไม่ได้ พูดตลอดเลย แล้วเราก็บอกว่า ห้ามพูดแบบนี้ ถ้ายิ่งพูดก็จะยิ่งทำไม่ได้ เขาก็เลยเหมือนปรับ mindset ใช่ไหมครับ ผมรู้สึกว่าพอเค้าปรับ mindset ปั๊บเหมือนแบบ เขา…เขาไปไกลกว่าผมเลย พี่เชื่อไหมว่า สมมติมีเวลาให้แค่ 5 นาที ช่างไฟ ทุกคนเดือดกันหมดแล้ว ช่างภาพมาแล้วแบบ เร็ว ๆ ย้ายแล้วต้องย้าย location แล้ว มันวุ่นวาย มีสภาวะวุ่นวาย สภาวะเครียดเยอะมาก แล้วเป็นซีนที่เขาต้องร้องไห้ 5 4 3 action เขาร้องได้เลย เขามาเลยแล้วเรารู้สึกว่า หู้วววว เขาแบบ เค้ามีเซ้นต์ด้านการแสดงโดยที่เขาไม่รู้ตัวอะไรอย่างนี้ แล้วผมก็เลยแบบอยากชื่นชมเขาแล้วก็ หลาย ๆ ซีนที่เราต้องคู่กับเขา ผมพูดเลยนะ ทุกครั้งที่ได้คู่กับมอสในซีนนั้น ๆ อะ ผมสบายใจมาก ผมรู้สึกว่า เออไม่ต้องเครียดอะไร
แบงค์: เพราะว่าเข้าไปปึ๊บมันเหมือนความธรรมชาติ มันทำให้ซีนนั้นแบบ ออกมาได้สมบูรณ์ แล้วก็ชื่นชมความที่แบบ เขาไม่เคยหยุดพัฒนาเลย สมมติว่าเราชมเขาว่า เขาเก่งแล้ว เขาก็จะกลับไปพัฒนาอีก ว่าเห้ย เขาเก่งจริงหรอ แล้วก็ไปฝึกเพิ่ม ๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เราก็เลยรู้สึกว่า เห็นแววในตัวเขา แล้วก็อยากฝากทุกคนว่าแบบ อันนั้นคือผลงานชิ้นแรกของเขา มันคือ first impression ในวงการบันเทิงของเขา เราก็อยากฝากน้องไว้ อยากให้คนรักน้องเยอะ ๆ เพราะว่า เขาตั้งใจมาก ตั้งใจมาก ๆ เลยด้วย
มอส: โหหหห ชมซะไม่รู้ว่าจะชมอะไรดี
แบงค์: มันคือเรื่องจริง you ควรได้รับ
มอส: ก็…..คำถามว่าอะไรนะครับ
madan: เขาเขิน
มอส: เขินแล้วเนี่ย สำหรับผมนะครับพี่แบงค์ เขา infinity รู้สึกว่าผมเจอเขาในวันที่เขาเก่งแล้วแล้วผมก็ทำงานกับเขาตลอด ก็รู้สึกว่า เขาเก่งสุด ๆ ไปแล้ว เขาแค่เลือกว่างานนี้เขาจะเอาระดับไหนลงมาทำ ผมรู้สึกว่าทุกอย่างที่เขาทำ เขาตั้งใจมาก ๆ เขาลิสต์ไว้หมดเลยว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง เขาวางแผนล่วงหน้าไว้เลยว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาต้องทำยังไงต่อ สมมติว่าวันนี้มาถ่าย Madan.fun แล้วเขาใส่กางเกงไม่ได้เขาจะทำยังไงต่อ เสื้อผ้าไม่เท่ากับเขาเขาจะทำยังไงต่อ เขาลงรูป มันมี accident ต่าง ๆ เขาต้องทำยังไง เขาเป็นคนที่วางแผนแก้ปัญหาไว้ตลอด ๆ เขาบอกตลอดเลยนะว่าเขาเป็นคนมองโลก สองแบบ ดีกับไม่ดี เขาก็จะคิดไว้เลยว่า สมมติมีคนเดินเข้ามาหาเรา แล้วเขายื่นดอกไม้มาให้เราบอกว่า ให้เธอนะ หนึ่งเขาคิดว่าคนนี้น่ารักจัง ยื่นดอกไม้ให้ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกัน สองเขาคิดว่า รับไว้
มอส: แต่ เขามีอะไรกับเราหรือเปล่า เขาต้องมีอะไรแน่ ๆ เราต้องเอาดอกไม้นี้ไปตรวจสอบ ว่าดอกไม้มีอะไรหรือเปล่า ตรวจสอบปุ๊บมันมียาพิษอะไรแบบนี้ คือเขา เขารอบคอบกับหลาย ๆ อย่างมาก ๆ การทำงานของเขาเนี่ยมอสรู้สึกว่า เขาไม่ได้เก่งแค่ตัวคนเดียว เขาทำให้ทุกคนเก่งขึ้นไปพร้อมกับเขา มอสเป็นคนที่พูดตรง ๆ ว่ามอสไม่เก่งเลย เขาเป็นคนปั้นมอสขึ้นมา เขาเป็นคนสร้างมอสขึ้นมา ทุกอย่างที่ถ่ายทอดออกมาในซีรีส์ ‘มังกรกินใหญ่’ อ่ะ เขาเป็นคนบงการมอสทั้งหมด พูดอย่างนี้เลย เขาเป็นคนสอนมอสแสดง
แบงค์: เว่อ ๆ มอส เขาเป็นคนสอนมอสคิด mindset ทั้งหมด เกือบทั้งหมด เขาเป็นคนสอนมอส บางครั้งมอสยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ยิ้มมันมีหลายแบบนะ มองตรงนี้เราต้องทำยังไง เขาเป็นคนสอนหมด แล้วก็ รู้สึกว่า ชอบ ชอบที่เขา จริงใจในการทำงานแล้วก็ ทำจริง ๆ แล้วก็ตั้งใจจริง ๆ ผลงานที่เขาทำทุกอย่างเนี่ยผมบอกได้เลยว่า ทุกอย่างมันออกมาดีทั้งหมด ทุกคนเห็น ‘มังกรกินใหญ่’ ทุกคนรู้ไว้เลยว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะมีพี่แบงค์ ผมไม่รู้จะชมอะไรเขาดีก็ เขาเป็นคนที่ดีมาก ๆ ครับ
แบงค์: เวอร์มากกกก
madan: อันนี้ทั้งคู่ก็คือเป็นมิตรภาพที่สวยงามมาก แต่แบงค์ก็จะพูดอยู่ตลอดว่าเวอร์มากกกก
แบงค์: เวอร์มาก
madan: แต่น้องพูดจริง ๆ
แบงค์: ขอบคุณครับ
มอส: ปกติไม่ค่อยได้ชม ปกติจะด่ากัน
แบงค์: เอาจริง ๆ ผมแค่รู้สึกว่าผมไม่เก่ง ไม่ได้มั่นใจ แต่ว่าการเตรียมตัวมันทำให้เราเก่งขึ้น การฝึกฝนทำให้เราเก่งขึ้น การเตรียมตัวมันทำให้เราแบบ รู้ว่าถ้าเราเจอกับ accident นี้ เราจะทำยังไงต่อไป เราก็สอนเค้า แล้วเราก็ไม่คิดว่าเราเก่งเลย เราคิดว่าเรามาเล่นซีรีส์นี้ มันเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่เราได้รับบทที่เป็นตัวเอก เป็นครั้งแรกและเป็นซีรีส์วายด้วย เราก็เลยรู้สึกว่า เราเริ่มจาก 0 พร้อมกับเขา เราเพียงแค่เคยไปเห็นวิธีการทำงานบางสิ่งบางอย่างมาแค่นั้น แล้วเราก็ถ่ายทอดให้เขา แต่สุดท้ายแล้วอ่ะ เรารู้บทไปด้วยกัน เราเรียนรู้ไปด้วยกัน เริ่มจาก 0 ไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นเราจะไปถึง 50 ถึง 100 อะไรไม่รู้ แต่มันจะไปด้วยกัน

กล่าวถึงซีรีส์เรื่อง ‘มังกรกินใหญ่’ หน่อย เรื่องย่อซีรีส์หรือบทบาทที่ได้รับ
แบงค์: โอเค เธอเล่นเป็นพระเอกนะ
มอส: ให้เธอก่อนนายเอก เร็ว
แบงค์: ผมนะครับรับบทเป็น ‘ใหญ่’ นะครับ ในเรื่องเนี่ย ใหญ่ก็จะ เป็นลูกเจ้าของผับแห่งหนึ่ง ที่ค่อนข้างแบบ มีฐานะเลย ค่อนข้างรวย นิสัยลึก ๆ ของเขาเนี่ย อันนี้ในพาร์ทตัวละครเนาะ คนอื่นอาจจะมองมาอีกแบบ แต่ในพาร์ตตัวละครคือเขาอ่ะ เป็นคนที่จริงจัง มุ่นมั่น แล้วก็เป็นคนที่ขาดความรัก เพราะว่าหลาย ๆ สิ่งที่เขาต้องการมันไม่ได้ แล้วก็แม่เขาก็เสียไปตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นตัวละครนี้มันจะมีช่องว่างที่หายไปโดยตลอด ถ้าเปรียบเสมือนกันรูปวงกลม มันจะมีรูนึงที่มันไม่เต็มวงกลม เขาพยายามหารูนี้ตลอดเวลา เพื่อทำให้วงกลมนี้มันเต็ม เลยทำให้ตัวละครนี้มีความซับซ้อน มีความ ถ้าอยากได้ อยากชนะก็จะเอา เอาจนได้ อยากได้รับการยอมรับจากคนอื่น ซึ่งตัวละครของผมก็จะไม่ถูกกับตัวละครของเขา เพราะว่าเขาก็ค่อนข้างแบบ มีอิทธิพลของฝั่งเขา แล้วตัวละครเราสองคนมาเจอกัน เพราะว่าเราดันมาจีบผู้หญิงคนเดียวกัน
madan: ก็คือมังกร
แบงค์: ใช่ก็คือมังกร ‘มอส’ รับบทเป็น ‘มังกร’ นะครับ ซึ่งพอเรามาเจอกันก็เกิดการ blackmail อะไรกันเกิดขึ้น เสร็จแล้วก็จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เพราะฉะนั้นความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือ ความรักมันดันเริ่มต้นขึ้นด้วยการเกลียดกัน ไม่ชอบขี้หน้ากัน เพราะฉะนั้นถ้าเราเกลียดกันไม่ชอบขี้หน้ากัน มันจะลงเอยเป็นความรักได้ยังไง อันนี้ผมว่ามันคือความน่าสนใจของเรื่องนี้
มอส: ครับผมก็ ผมได้รับบทเป็นมังกรนะครับ เป็นหนุ่ม ที่ค่อนข้างที่จะ
แบงค์: แสบ
มอส: เป็นหนุ่มหล่อติสต์ ๆ ครับผม เป็นหนุ่มซื่อ ๆ ครับ เป็นอริกับใหญ่เขา คือผมเป็นเด็กสถาปัตฯ ที่ค่อนข้างจะฮอตฮิตในมหาวิทยาลัยอะไรแบบนี้ครับ แล้วก็จะมีอะไรพัวพันกับผู้หญิงหน้าตาดี ๆ หลายคนมาก แล้วเขาก็เป็นเสือผู้หญิงเหมือนกันเวลาเราได้กินคนไหนเนี่ย เขาก็จะหุ้ย คนนี้กินแล้วหรอ เราเผลอไปสนิทกับคนที่เขาอยากได้ เพราะคนนี้เขาคือสวยมาก ๆ ง่าย ๆ คือเป็นดาวมหาวิทยาลัย เป็นฟีลนั้น เราบังเอิญไปรู้จักกับคนนั้น เขาก็ดันไปชอบคนนั้น แล้วเขาคิดว่าเราชอบ แล้วก็มีเรื่องกัน เสร็จแล้วเราก็ ปึ้ง ๆ ๆ ๆ ๆ
แบงค์: อันนี้ก็สปอยเหมือนกัน
มอส: ไม่สปอยแล้วนิดนึง นิดนึง ๆ ๆ ปึ้ง ๆ เสร็จจบครับ คนชอบสปอยอ่ะ อย่าให้เล่าเลยครับเล่าก็สปอย ไปดูใน ‘มังกรกินใหญ่’ แล้วกันนะครับ พี่อย่าขำนะครับ ผมพูดจริงว่าผมสปอย พี่อย่าขำดิ
madan: อ่ะ ตอนจบเป็นยังไงคะ
แบงค์: เดี๋ยวพูดจริงนะ
มอส: พูดจริงดิ
แบงค์: ไม่จริง ๆ ขอนิดนึงนะครับ ด้วยความที่ ถ้าใครเคยอ่านนิยายแล้ว ด้วยความที่เรื่องนี้ทำมาจากนิยาย เพราะฉะนั้นใครที่อ่านนิยายแล้วก็จะพอรู้เรื่องที่มอสเล่าให้ฟัง แต่ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ ที่คิดว่ามันทำให้คนอ่านนิยายแล้วมาดูซีรีส์จะสนุกมากขึ้น เพราะว่าเราอ่ะ เอาเหตุการณ์บางเหตุการณ์ในนิยายเท่านั้น บวกกับคาแรกเตอร์ที่นักเขียน เขียนไว้อย่างดีแล้วในนิยาย เอามาปรับกับซีรีส์ เหตุการณ์บางเหตุการณ์ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในนิยายด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นมันจะเป็นเหตุการณ์ใหม่ ๆ แล้วก็เป็นเส้นเรื่องใหม่ ๆ ที่อยู่ในซีรีส์ เพราะฉะนั้นใครที่อ่านนิยายอ่ะ ก็จะไม่ผิดหวังแน่นอน คาดว่าจะไม่ผิดหวัง
Madan: ไม่ผิดหวังแน่นอน
แบงค์: ก็หวังว่าครับ
มอส: ขอพูดก่อนครับ เอ่อ ที่สปอยไปข้างต้นนี้ มันเป็นเพียงเหตุการณ์ ๆ นึงเท่านั้น มันมีอีกเยอะมาก ๆ ที่ผมยังไม่ได้เล่าไป
แบงค์: เข้าใจ
มอส: ถ้าให้เล่าอีกก็คือสปอยหมดแล้วครับ
แบงค์: เป็นเพียงเหตุการณ์ ๆ หนึ่ง แต่ว่า
มอส: เป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่ง
แบงค์: แต่ว่า ep.4
มอส: มันเป็นเสี้ยวนึงเท่านั้นเอง ไปดูเหอะ นะ เดี๋ยวได้รู้ว่าเป็นยังไง อันนี้เป็นเสี้ยว ๆ นึง เล่าให้อยากรู้ไง เป็นฟีลน้ำย่อย
Madan: อ่า ep.9 เป็นไงคะ
มอส: มันมีถึง ep.8 จบ 8 ครับ

‘มังกรกินใหญ่’ ในเวอร์ชันนิยายแซ่บมาก พูดถึงเวอร์ชันซีรีส์หน่อย
มอส: โอ้ย เผ็ด ๆ ๆ ๆ แสบปาก ๆ
แบงค์: ทำไม กินพริกหรอ
มอส: มันร้อนแรง
แบงค์: ด้วยความที่ผมเคยกล่าวไปข้างต้นเมื่อกี้ว่า เรื่องของเรามันจะมีความเป็นมนุษย์สูง เพราะฉะนั้นเราแค่หยิบ บางเสี้ยวของมนุษย์ ออกมาให้เห็นว่า จริง ๆ แล้วเวลาเรารักใครคนนึง เราแสดงความรักยังไง แล้วก็ เค้าเรียกว่า เอามาทำในเชิงศิลปะ ให้คนแบบ ว้าวอะไรแบบนี้ แล้วก็ให้คนเข้าใจว่า เอ้ย จริง ๆ ตัวละครสองตัวนี้ เขารู้สึกยังไงต่อกัน เขาถึงทำแบบนี้ เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงในเรื่องของความแซ่บ พูดเลยว่า
มอส: เหมียว~
แบงค์: แซ่บแบบ แซ่บมากอ่ะ คือตอนถ่ายอ่ะแซ่บมาก ไม่รู้เขาจะตัดออกไปมากน้อยแค่ไหน แต่ตอนถ่ายคือ
มอส: พูดตรง ๆ ว่าตอนถ่ายอายมาก พูดแค่นี้แหละ ไม่บอกว่าแซ่บขนาดไหนแต่ตอนถ่ายอายมาก
Madan: เพราะอะไรหรอมอส
มอส: บอกไม่ได้ เดี๋ยวสปอย พูดตรง ๆ เลยถ้ามอสอยู่กับพี่แบงค์สองคนอ่ะ มอสสามารถแสดงได้ดีมาก โดยที่ไม่อายเลยซักนิด แต่ มันดันมีทีมงานอยู่เยอะ บางซีนเราก็ เอ้ออ อายจังเลย
Madan: น้องมอส ถ้าอยู่กันสองคนไม่มีทีมงาน ไม่เรียกแสดง (หัวเราะ)
มอส: ไม่หมายถึงตั้งกล้องไว้ไง สมมติมีตากล้องซักสี่คนเราก็ไม่ได้เกร็งมาก แต่นี่คนอยู่ประมาณล้านคนครับ ก็เลยอาจจะนิดนึงเนาะ
แบงค์: ไม่ เขาก็เคลียร์คนให้
มอส: ล้านคนอยู่นะ
แบงค์: เคลียร์เขาก็เคลียร์
มอส: ล้อเล่น ๆ ก็นั่นแหละ ก็แซ่บอยู่เหมือนกัน พูดเป็นขำ ๆ ไปนะครับ แต่ว่าพูดจริงนะ
Madan เพราะว่าให้ตั้งกล้องไว้แล้วทีมงานออกไปทั้งหมด
มอส: ซึ่ง ไม่ได้นะครับ
Madan: เขาต้องเลื้อยกล้องตามพวกเธอไง
มอส: ซี๊ดด เผ็ด ๆ ๆ
Madan: เอาเป็นว่ามอสสปอยสั้น ๆ ว่ายังไงนะ แซ่บไม่แซ่บนะ
มอส: เผ็ด เผ็ด
madan: อ่ะก็คือถือว่าไปรอดูกัน ก็อย่างที่เขาว่ากันก็ ถ้าแซ่บก็คือ ก็แซ่บล่ะ
มอส: ก็น่าจะไม่แพ้นิยาย
แบงค์: ก็ขอฝากซีรีส์เรื่องนี้นะครับ ‘มังกรกินใหญ่ Big Dragon The Series’ นะครับ ขอไม่เยอะเลย ขอแค่เปิดใจ เข้ามากด EP.1 ก็ได้ ถ้าไม่ชอบไม่ดู ep.2 ต่อก็ได้ แต่อยากให้ดู ep.1 จนจบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ขอให้คนที่ไม่ว่าจะเป็นสาววายหรือไม่ใช่สาววาย อยากให้ลองเปิดใจกับเรื่องนี้ดู แล้วก็ลองดูว่า เห้ยตัวละครสองตัวนี้ มันจะไปได้ถึงตรงไหน อยากให้แบบติดตาม เพราะว่าพวกเรา ไม่ใช่แค่พวกเรา ทีมงานทุกคนตั้งใจมาก แล้วก็กว่าจะได้ซีน ๆ นึงมามันแบบ มันดีเทลเยอะมาก เพราะฉะนั้นถ้าใคร เป็นคนดูภาพยนตร์แล้วชอบภาษาสัญลักษณ์ เรื่องนี้เหมาะมาก เข้าไปดูได้เลย เกือบทุกซีนมีภาษาสัญลักษณ์อยู่ เพราะฉะนั้น อยากให้เปิดใจดูซีรีส์เรื่องนี้นะครับ ความแซ่บมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่อง เพราะฉะนั้น เนื้อหาและองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง มันเป็นส่วนมาก มากกว่า เพราะฉะนั้นใครที่รู้สึกว่า เห้ย มันแซ่บเกินไปอะไรแบบนี้ เราก็เลยมองว่า จริง ๆ ก็ แซ่บจริงแต่ว่า อืมยังไงดี
มอส: ก็ดูแบบแซ่บ ๆ แหละครับ
แบงค์: ใช่ ก็อยากให้เปลี่ยนมุมมองบ้างแบบนี้ครับ สุดท้ายนะครับ ใครอยากเห็น isbanky ให้เข้าไปดูที่ไอจี Isbanky แต่ถ้าใครอยากเห็น isbanky ในเวอร์ชันใหญ่ ให้เข้าไปดูในมังกรกินใหญ่ครับ
มอส: ก็ขอฝากมังกรกับใหญ่ไว้ด้วยนะครับผม ก็รู้สึกว่าเรารู้จักมอสกับแบงค์แล้ว อยากให้ไปรู้จักตัวละคร ที่ชื่อว่า ‘ใหญ่’ กับ ‘มังกร’ ในซีรีส์แล้วกันครับ ว่าสองคนนี้จะมีคาแรกเตอร์ยังไง ตรงกับที่เราเล่าไหม แล้วคาแรกเตอร์นี้เป็นยังไง ก็ฝากไว้ด้วยนะครับไปดูที่ ‘มังกรกินใหญ่’ ได้เลย พูดไว้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ทุกคนก็ตั้งใจทำทุกอย่างให้ออกมาดีแน่ ๆ ทุกอย่างคือ Perfect แน่ ๆ ครับ
Model : Mos Panuwat & Bank Mondop (ISBANKY)
Photographer : BoydFoto Sathianpong
Make up : mormormakeup
Hair : rindahair
Stylist : Patipan Jaksukan
Editor-in-Chief : Natthida Ratchawong
Producer : Ployrawee Choksuchanun
Content Creator : Aditchaya Sukprasert, Palita Iamnoppakhun
