ฝนงูห่าใหญ่ร่วงหล่นมาจากปากหลุม ฝูเหยาส่งเพลิงกรขึ้นไปทำลายงูได้จนหมดสิ้น แต่เขายังโกรธอยู่มาก จึงถลันเข้าหาเซียนหลาง และเกรี้ยวกราดใส่เขา เพราะถ้าเซียนหลางไม่ได้ควบคุมงู แล้วทำไมงูไม่ทำร้ายเขา องค์รัชทายาทยืนขวางหน้าปกป้อง จนฝูเหยาเผลอตัวตวาดองค์รัชทายาท “ท่านอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย ท่านยังจำสถานะของตัวเองได้หรือไม่ คนข้าง ๆ ท่านเป็นตัวอะไรกันแน่ ท่านก็รู้อยู่เต็มอก” แต่ขณะที่ถกเถียงกันฝนงูตกลงมาอีกแล้ว ซานหลางกางร่มปกป้ององค์รัชทายาท ปล่อยให้ฝูเหยาจัดการฝูงงูโดยลำพัง
ฝูเหยาไม่สามารถเสกเพลิงกรได้ จึงก่นด่าว่าซานหลาง ด้วยเข้าใจว่าซานหลางกดทับอำนาจเวทของเขาไว้ องค์รัชทายาทฉุกคิดขึ้นมาทันที เพราะทั้งแม่ทัพเค่อหมัวและราชครูป้านเยว่เอง ไม่สามารถออกคำสั่งอะไรได้ในตอนนี้ ดังนั้นในหลุมนักโทษต้องมีบุคคลที่ 6 ที่นี่มีคนอื่นนอกเหนือจากพวกเขาทั้ง 5 และเป็นคนที่สามารถออกคำสั่งกับงูทั้งหมดนี้ได้
?!?
ราชครูป้านเยว่ส่งเสียงจากในความมืดราวกับกำลังโดนทำร้าย องค์รัชทายาทจะไปช่วยนางแม้ฝูเหยาจะออกปากห้าม ซานหลางจึงพาองค์รัชทายาทเดินไปภายใต้ร่มเดียวกัน
เข้าไปหาราชครูป้านเยว่ ระหว่างทางมีอาวุธลับพุ่งมาหาทั้งสองคน ซานหลางป้องกันไว้ได้ และนึกสนุกจึงให้องค์รัชทายาทถือร่มไว้ ส่วนตัวเขาพุ่งออกไปต่อสู้กับบุคคลที่ 6 ในความมืด แสงสีขาวจากการปะทะกันของทั้งสอง แว่บขึ้นเป็นระยะ
รั่วเหยียที่ข้อมือขององค์รัชทายาทกระตุกอย่างหวาดกลัว จนองค์รัชทายาทต้องกล่าวปลอบ
แต่ฝูเหยายังมั่นใจต่อไปอีกว่า คนที่ใช้งูลอบทำร้ายพวกเขาในขณะนี้คือราชครูป้านเยว่ สู้กับงูไป ปากก็ตะโกนด่าไป ในเมื่อนางเป็นคนขายชาติ จะต่างอะไรกับผีเซวียนจี [ผีเซวียนจีอยู่ในตอนที่ 3] องค์รัชทายาทถึงกับทวนชื่อผีเซวียนจีขึ้นมา และพูดเสียงดังขึ้นในความมืดนั้น ให้บุคคลที่ 6 ได้ยิน
“หยุดเถอะ ข้ารู้แล้วว่าเจ้าคือใคร “
“แม่ทัพเสี่ยวเผย!!!”
องค์รัชทายาทกล่าวต่อ ข้าควรจะคิดออกนานแล้ว สองร้อยปีมานี้แคว้นป้านเยว่เกิดเรื่องร้ายแรง สวรรค์กลับไม่รู้เรื่อง ต้องมีใครปิดบัง ฝูเหยากล่าวถึงเซวียนจี ทำให้นึกถึงแม่ทัพตระกูลเผย ก่อนแม่ทัพเผยซิ่วขึ้นสวรรค์ เขาได้ฆ่าล้างเมือง แล้วแคว้นป้านเยว่นี่ก็มีความเป็นไปได้ แต่เมื่อได้ขึ้นสวรรค์ก็มีความจำเป็นต้องปิดบังอำพราง ทั้งบนสวรรค์เองก็ไม่มีใครอยากขุดคุ้ยหาอดีตผู้อื่น ราชครูป้านเยว่ก็บอกว่า งูหางแมงป่องไม่เชื่อฟังนางแล้ว แม่ทัพเค่อหมัวก็หวาดกลัวงู ตอนใบหน้าฝังดินพูดถึงคนในกลุ่มเรา เหมือนจะเป็นคนที่เขาเคยเห็นเมื่อ 50-60 ปีก่อน องค์รัชทายาทก็เริ่มสงสัยกลุ่มพ่อค้านั้นแล้ว และยังมีพฤติกรรมประหลาดอีกหลายอย่าง สุดท้ายคนคนนี้ยังกระโดดลงหลุมนักโทษเองเสียด้วย
“อาเจา”
องค์รัชทายาทเรียกชื่อของคนนำทางคณะพ่อค้าออกมา การต่อสู้ยุติลง ฝูเหยากลับมาใช้พลังเวท เรียกแสงสว่างออกมาได้แล้ว ในถ้ำปรากฏแสงสว่างขึ้นให้เห็นซากร่างทหารที่ถูกทำลายกระจัดกระจายไปทั่ว ที่แท้อาเจาก็คือแม่ทัพเผยซิ่ว ที่แบ่งร่างลงมาจากสวรรค์ ก่อนขึ้นสวรรค์เขาคือผู้สมคบกับราชครูป้านเยว่ให้เปิดประตูเมือง เขาสามารถควบคุมงูหางแมงป่องได้ และในตอนวัยหนุ่ม เขาเคยได้พบกับองค์รัชทายาทตอนเป็นแม่ทัพฮวามาแล้ว เพราะเขาคือเด็กหนุ่มที่ติดตามป้านเยว่คนนั้น ราชครูป้านเยว่เล่าเรื่องที่ตนรู้จักเด็กหนุ่มที่ช่วยเหลือตนเองจากการถูกชาวป้านเยว่รังแก เพราะนางเป็นพวกเลือดผสม และสาเหตุที่นางตัดสินใจเป็นไส้ศึก เพราะนางเสียใจในการเสียชีวิตของแม่ทัพฮวา หรือองค์รัชทายาทในสมัยนั้นนั่นเอง นางต้องการทำความปรารถนาของแม่ทัพฮวาให้เป็นจริง คือยุติสงครามครั้งนี้ลงเสีย

เมื่อรู้ตัวตนจริงของอาเจา แม่ทัพเค่อหมัวโกรธแค้นและท้าทายเขาเข้ามาต่อสู้ แต่แม่ทัพเผยซิ่วไม่สนใจ การต่อสู้จบลงไปเป็นสองร้อยปีแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็ชนะและฆ่าล้างเมืองได้สำเร็จ เหตุที่ต้องฆ่าล้างเมือง เพราะเขาลอบรู้แผนการอำมหิตของแคว้นป้านเยว่
แม่ทัพเค่อหมัวเองก็ชั่วร้ายนัก
วางแผนจะนำดินปืนซุกไว้ในตัวผู้คน และกระจายกันเข้าแผ่นดินใหญ่ หาที่ชุมชนและระเบิดตัวเอง ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เค่อหมัวเปิดเผยอดีตของแม่ทัพเผยซิ่วแท้จริงแล้วเป็นแค่ลูกนักโทษที่ถูกเนรเทศ ไม่ใช่ลูกหลานสายตรงของตระกูลเผย เขาเข้าสู่กองทัพเพราะหวังจะไขว่คว้าความก้าวหน้า แต่หนทางนั้นกลับยากลำบาก แม้เขาจะเก่งกาจนำคว้าชัยชนะมาได้ แต่ไม่อาจจะก้าวหน้าได้ไกลเมื่อเทียบกับลูกหลานคนตระกูลดีมีเส้นสาย

เรื่องมากมายบนโลกนี้ไม่สามารถจบลงได้นอกจากการต่อสู้เท่านั้นหรือ? องค์รัชทายาทคิดในข้อนี้…
มีเสียงสตรีก้องลงมาจากปากหลุม และบังเกิดลมหมุนม้วนหอบทั้งหมดขึ้นไป องค์รัชทายาทเป็นห่วงราชครูป้านเยว่จึงส่งรั่วเหยียไปโอบรัดนางไว้ หนานเฟิงกลับมาแล้วในร่างสะบักสะบอม หญิงสาวทั้งสองนางที่เขาใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเดินสวย ๆ
เข้ามาทักทายองค์รัชทายาท หนึ่งในนั้นคือเทพวายุ นางเข้ามาซักแม่ทัพเผยซิ่วถึงสาเหตุที่เขาล่อลวงนักเดินทางมายังแคว้นโบราณแห่งนี้ เพื่อคลายแรงอาฆาตจากเหล่าวิญญาณที่ถูกเขาฆ่าล้างเมือง เขาจึงต้องแอบทำเรื่องเหล่านี้เป็นการลับ เพราะไม่สามารถกำจัดทั้งหมดได้โดยไม่ให้สวรรค์รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในฐานะอาเจาคนนำทาง เขาสามารถบังคับงูหางแมงป่อง ล่อลวงคนเดินทางให้เข้ามาเป็นอาหารของวิญญาณอาฆาต เทพวายุละเว้นราชครูป้านเยว่ และนำตัวแม่ทัพเผยซิ่วกับแม่ทัพเค่อหมัวขึ้นไปตัดสินโทษ
ฝูเหยาจากไปก่อนหน้านี้แล้ว หนานเฟิงชักชวนองค์รัชทายาทให้ยุติเรื่องนี้ เพราะที่ทำไปแล้วนั้นอาจจะเป็นการล่วงเกินบางคนบนสวรรค์ องค์รัชทายาทไม่ตกลงเพราะได้ล่วงเกินไปแล้ว เขานำวิญญาณราชครูป้านเยว่กลับไปด้วย และนำหญ้ามาถอนพิษให้กลุ่มพ่อค้า หนานเฟิงแยกกลับขึ้นสวรรค์
ก่อนจะออกเดินทางกลับ องค์รัชทายาทถามซานหลางด้วยเสียงละมุน
“เจ้าอยากกินอะไร ฮวาเฉิง!!!”

บทความที่เกี่ยวข้อง