ทำไมต้องเผาวัด?!!
ทำไมมีวัดหมิงกวงอีกแห่ง?!!
เจ้าสาวที่ผิดหวังและเคียดแค้น?!!
องค์รัชทายาทวิเคราะห์ข้อมูลและได้คำตอบแล้วว่าที่นี่ไม่มีผีเจ้าบ่าว แต่กลับเป็นผีเจ้าสาวที่อิจฉาทุกคน ทนเห็นใบหน้ามีความสุขของเจ้าสาวคนอื่นไม่ได้ นางจึงฆ่าเจ้าสาวทุกคนทิ้งเสีย
ด้านนอกร่างศพเจ้าสาวทั้งหมดที่นักล่าเงินรางวัลแบกลงเขาไป ฟื้นคืนจากการถูกปลดผ้าคลุมหน้าที่สะกดวิญญาณ
กำลังไล่เข่นฆ่ากลุ่มนักล่าเงินรางวัล ผู้รอดชีวิตต่างหนีเข้ามาในวัด ผีเจ้าสาวทั้งหมดกรูเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง องค์รัชทายาทใช้พลังจากริ้บบิ้นสีขาวสะกดผีเจ้าสาวทั้งหมดไว้ได้ชั่วครู่ และช่วยกันกับหนานเฟิงนำผ้าคลุมหน้าคลุมบรรดาผีเจ้าสาวเพื่อตรึงร่างให้หยุดนิ่ง เหล่านักล่าวิ่งหนีกระจัดกระจาย องค์รัชทายาทจึงใช้ริบบิ้นขาวอีกครั้ง เพื่อสร้างเขตปลอดภัยให้ทุกคน ยกเว้นเสี่ยวโถที่สิ้นสติอยู่นอกเขตปลอดภัย องค์รัชทายาทได้ใช้วรยุทธ์จัดการคลุมหน้าให้กับผีเจ้าสาวทุกตนจนหมด
เหล่านักล่าโห่ร้องชื่นชม
“ขอบใจทุกท่าน ผู้ใดมีเงินก็ให้ขวัญถุง ผู้ใดไม่มีก็ให้เพียงกำลังใจ”
เป็นคำพูดจากองค์รัชทายาท ที่หลุดออกมาในเวลาที่ไม่เหมาะสมนี้ด้วยความคุ้นเคยจากชีวิตช่วงหนึ่งที่เขาใช้เรียกแขกในการรับงานกายกรรม

ตำหนักหลิงเหวินประสานโทรจิตกับองค์รัชทายาท และให้ข้อมูลเบื้องต้นกับพระองค์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่ทัพเผยหมิงกวงและแม่ทัพสาวต่างแดนคู่สงครามชื่อเซวียนจี
ที่กลายเป็นผีเจ้าสาวระดับเกือบอำมหิตในตอนนี้
ผีเจ้าสาวเซวียนจีอาละวาดอย่างหนัก
พร่ำเรียกหาแต่แม่ทัพเผยหมิงกวง ความโกรธแค้นทำให้นางต้องการฆ่าและฆ่า
นางหักคอเสี่ยวโถ หัวหน้ากลุ่มนักล่าเงินรางวัลที่อยู่นอกเขตคุ้มครอง
ระเบิดพลังทำลายวัดหมิงกวง คลุ้มคลั่งเข้าบีบคอองค์รัชทายาท เสี่ยวอิ๋งหญิงสาวที่ติดตามมา ได้เข้าช่วยองค์รัชทายาทด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจผีเจ้าสาวมาที่ตนเอง ผีเจ้าสาวจึงละจากองค์รัชทายาท ลงมืออย่างดุร้าย ฆ่าเสี่ยวอิ๋งเสียชีวิตทันที!!! องค์รัชทายาทส่งริบบิ้นขาวพันรัดร่างนางไว้ได้ แต่ผีเจ้าสาวเซวียนจีเสียสติ ระเบิดพลัง ทำลายริ้บบิ้นขาวที่พันมัดร่างจนคลาย พุ่งตัวเข้าทำร้ายคนทั้งหมด องค์รัชทายาทพุ่งเข้ารับการปะทะแทนทุกคนแม้ตัวเองจะไม่มีพลังเวทย์ใดใด
ทันใดนั้น!!! ระฆังสวรรค์ดังก้อง ฝูเหยานำกองกำลังสวรรค์ลงมาทันเวลา รองเจ้าตำหนักหมิงกวง นามเผยซิ่ว เข้าจับกุมผีเจ้าสาว ขอบคุณองค์รัชทายาทและบอกเล่าเรื่องราวในอดีต
ก่อนแม่ทัพเผยหมิงกวงจะขึ้นมาเป็นเทพบนสวรรค์ เขาได้นำทัพและได้รู้จักแม่ทัพสาวแห่งจักรวรรดิหนึ่งในสนามรบ โฉมงามแกร่งกล้านาม’เซวียนจี’ นางสู้รบพ่ายแพ้และถูกจับเป็นชลยศึก ตั้งใจจะปลิดชีพตนเอง แม่ทัพเผิงรั้งเอาไว้ เมื่อสงครามสงบแม่ทัพเผยได้ปล่อยตัวนาง แต่ยังติดต่อกันจนมีความสัมพันธ์ที่ตกลงเป็นความสัมพันธ์ชั่วคราว นานไปเซวียนจีต้องการครองรักกับแม่ทัพเผยหมิงกวงอย่างเปิดเผย ถลำลึกจนไม่อาจถอนตัว แต่นางเป็นคนแข็งกระด้างแต่เกิด ส่วนแม่ทัพเผยก็เป็นคนเจ้าชู้ ทำให้รักกันยาก
อยู่ด้วยกันได้ไม่นาน เมื่อแม่ทัพเผยขอยุติความสัมพันธ์กับนาง นางได้มอบข่าวกรองและแผนที่เป็นการทรยศบ้านเกิดเพื่อหวังเอาใจเขา แต่เขากลับตำหนินาง และไม่สนใจนางอีกต่อไป นางจึงทำร้ายตัวเอง ด้วยการตัดขาทั้งสองข้าง หวังให้แม่ทัพเผยเสียใจสงสารและอยู่กับนาง แม่ทัพเผยไม่เคยทอดทิ้งนาง ส่งคนมาดูแล แต่อย่างไรก็ไม่ยอมแต่งงานกับนาง นางจึงปลิดชีพตัวเองด้วยความแค้น
ผีเจ้าสาวเซวียนจีพร่ำสาปแช่ง ก่อนจะถูกแม่ทัพเผยซิ่วนำตัวกลับไป เพื่อสะกดวิญญานนางไว้ใต้ภูเขา
“หากไม่ใช่คนในเหตุการณ์ ก็ไม่สามารถตัดสินถูกผิดได้” องค์รัชทายาทกล่าว
ทั้งสามคนพากองกำลังมาจัดการปลดศพที่ถูกนำไปแขวนบนต้นไม้ลงมา หนานเฟิงเริ่มปะทะคารมกับฝูเหยา และพาลโมโหองค์รัชทายาทที่ยังใส่ชุดเจ้าสาวไม่ยอมเปลี่ยนชุดกลับเสียที
ฝูเหยาเล่าถึงประวัติเผยซิ่ว ว่าเป็นแม่ทัพใหม่ เพิ่งขึ้นสวรรค์ไปร้อยสองร้อยปี
ถูกแม่ทัพเผยเรียกไปก็อายุเพียง 20 ปี เขาเหมือนบรรพบุรุษ
ยากที่จะประมือ ผลงานก่อนถูกเรียกตัวขึ้นสวรรค์คือการสังหารคนทั้งเมือง และพูดสรุปว่า คนบนสวรรค์มีไม่กี่คนที่น่าคบ!
พร้อมกับแอบอวยเจ้านายตัวเองไปด้วย
หนานเฟิงรู้ทันจึงพูดขัดคอ
องค์รัชทายาทต้องเข้ามาเป็นกรรมการแยกย้ายทั้งคู่ออกไป
ณ หลุมฝังศพเสี่ยวอิ๋ง องค์รัชทายาทปลอบเด็กหนุ่มที่มีผ้าพันแผลบนใบหน้า องค์รัชทายาทให้เขาปลดผ้าพันแผลออกเพื่อจะดูการบาดเจ็บที่ศีรษะ เมื่อผ้าพันแผลถูกปลดออกมา องค์รัชทายาทถึงกับผงะถอยหลังด้วยความตกใจ เพราะรอยบนใบหน้าของเด็กหนุ่มคือ ‘โรคใบหน้ามนุษย์’ เป็นโรคที่สาบสูญไปพร้อมกับ ’แคว้นเซียนเล่อ’ กว่าร้อยปีแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง