ค้นตัวตนของ Cosplayer หนุ่ม ‘เทมส์ – สรณ ขุนพลพิทักษ์’ หรือ ‘Thames Malerose’ และ GM (Game Master) สตรีมเมอร์หนุ่ม ‘อาร์ตโตะ – วิศรุตต์ ปองธนพิสิฐ’ หรือ ‘Al2TTO’ ที่มาพร้อมกับเสน่ห์เฉพาะตัว
ทำความรู้จัก ‘Thames Malerose’ และ ‘Al2TTO’ ผ่านบทสนทนาที่พวกเขาต้องพูดคุยและสัมภาษณ์ตัวเอง (?) ถึงจุดเริ่มต้น อุปสรรค และอนาคตในบทบาท Cosplayer และ Game master
เทมส์ – สรณ ขุนพลพิทักษ์ (Thames Malerose)
Q: แนะนำตัวหน่อย
A: สวัสดีครับ ผม ‘เทมส์ – สรณ ขุนพลพิทักษ์’ หรือเรียกว่า ‘Thames Malerose’ ก็ได้ เทมส์สาย 4 ก็ได้ หรือเรียกว่าที่รักก็ได้ครับ
Q: ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ทางนั้นสบายดีมั้ย
A: โห ต้องบอกว่าสบายดี ก็เรื่อย ๆ ครับ งานเองก็มีเยอะเรื่อย ๆ แบบว่าแน่นเลย
Q: สำหรับชีวิตคุณตอนนี้อยากรู้ว่าคอสเพลย์คืออะไร
A: ตอนนี้ ผมมองว่าคอสเพลย์ยังคงเป็นแรงบันดาลใจของผมอยู่ ยิ่งเราคอสเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง ทำให้อยากแต่งคอสเพลย์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม เหมือนเป็นทั้งแรงบันดาลใจตัวเอง และคนที่มาติดตามผมด้วย แล้วคุณล่ะ
Q: คุณคิดว่าการคอสเพลย์ของพวกเราแบบยังไงบ้าง การคอสเพลย์ครั้งแรกของคุณรู้สึกยังไงบ้าง
A: โอ้โห คำว่าเป็นครั้งแรกแสดงว่ามันก็ยังไม่ได้สมบูรณ์แบบเนาะ เราก็ต้องพัฒนากันไป เหมือนที่เรารู้กันว่าพัฒนากันมาขนาดไหน ตอนครั้งแรกเราจำได้ว่าเป็นงาน J-Trends in Town เราคอสเพลย์เป็น เวอร์จิล จาก devil may cry แล้วมันคือการใช้ชุดหนัง มันเป็นหนัง pvc แล้วมันจะระบายอากาศยังไงในประเทศไทย แดดร้อนขนาดนี้ มันเหนียวมาก
Q: อย่างที่พูดเลย
A: ครั้งแรกของพวกเรามันคือแบบนั้นแหละ พอดีพวกเรามีเพื่อนที่มาคอสด้วยกันไง ก็เลยเป็นครั้งแรกที่สนุก ถึงแม้จะร้อน จะเหนียวยังไง แต่เมื่อมีเพื่อนที่คอสไปด้วยกันมันก็สนุกสนานอยู่ดี
Q: คุณถามผมเรื่องครั้งแรกของพวกเราไปแล้ว คราวนี้คุณเล่าให้ฟังหน่อยว่าทำไมพวกเราถึงได้มาเจอกัน
A: อย่างที่รู้กันว่าผมเป็นเด็กเบียวอยู่แล้วใช่มั้ย พวกเราเป็นเด็กเบียวอยู่แล้ว จริง ๆ เราชอบดูการ์ตูน อ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก ชอบเล่มเกมมาตั้งแต่เด็ก ชอบตุ๊กตุ่น เข้าใจคำว่าตุ๊กตุ่นใช่มั้ยคุณอะ
Q: เข้าใจสิ ตุ๊กตุ่น
A: ก็เราชอบเล่นพวกนั้นกันอยู่แล้ว ชอบโรลเพลย์เป็นตัวละครต่าง ๆ แบบว่าตอนเด็กหาเพื่อนแถวบ้านมาเล่น แบบว่าเดี๋ยวคุณเป็นตัวนี้นะ เดี๋ยวผมเป็นตัวนี้ แล้วก็มาเล่นกัน มันมาจากความเบียว ความรู้สึกตรงนั้น จนเราได้มารู้จักคอสเพลย์ก็รู้สึกว่าใช่เลย นี่แหละคือโลกของเรา คือที่ที่เราต้องอยู่ ประมาณนั้นครับผม
Q: เล่าโมเมนต์ที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยคอสเพลย์มาหน่อย
A: มันเยอะมาก คุณก็น่าจะจำได้ มันเยอะจนไม่รู้จะนับยังไง เราเอาโมเมนต์ที่ดีแบบหลัก ๆ เลยนะ คือเราได้มารู้จักเพื่อน ๆ คอสเพลย์ที่ชอบสิ่งเดียวกัน อันนี้ก็เป็นโมเมนต์ที่ค่อนข้างประทับใจ เวลาที่เราไปงานต่าง ๆ แล้วมีคนมาคอยต้อนรับเราอย่างอบอุ่น อย่างล่าสุดที่ไปเวียดนามมา ซึ่งหลังจากโควิด 2 ปีเราไมได้ไปต่างประเทศเลย ไม่ได้ออกงานที่ไหนเลย พอเราไปเวียดนาม ตอนแรกคิดว่าเค้าก็คงจำเราไมได้หรอกมั้ง คนคงไม่ได้เยอะอะไร แต่กลายเป็นว่าคนเยอะมาก
ครั้งที่ผ่านมาคือคนเยอะที่สุดของงานนี้แล้ว ตั้งแต่เค้าจัดมา มันกลายเป็นว่าทุกคนยังต้อนรับเราอยู่ หรือการไปต่างประเทศครั้งแรกของผม อย่างไปจีนครั้งแรก ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนมาคอยต้อนรับเราเยอะขนาดนี้ มันเป็นโมเมนต์ที่สนุกมาก แล้วก็มีโมเมนต์จากเรื่องที่คนที่เค้าไม่ได้รู้จักกัน แต่เค้าชอบเราเหมือนกัน แล้วกลายมาเป็นเพื่อนกัน สิ่งนี้มันทำให้เรารู้สึกดีมาก ๆ เลยครับ การที่เราได้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครซักคนมันเป็นโมเมนต์ที่ดีมาก ๆ เลย
Q: การคอสเพลย์ของเรามีโมเมนต์ไหนที่เฟล พลาด แล้วท้อบ้างมั้ย แล้วผ่านไปได้อย่างไร
A: โมเมนต์ที่เรารู้สึกเฟล รู้สึกแย่หรอ มันก็มีนะ มันไม่ใช่ว่าดีทุกอย่าง ความรู้สึกที่เราเฟลก็มีบ้าง แต่เราไม่ได้เฟลกับคนอื่นนะ จะเป็นการเฟลกับตัวเอง ที่แบบว่าทำไมเราไม่ทำแบบนี้ ทำไมเราไม่แต่งแบบนี้ให้ดีขึ้นกว่านี้ รู้สึกอยากเอาชนะตัวเองมากกว่า อยากจะเอาชนะคุณอะ พูดง่าย ๆ อยากเอาชนะตัวเอง ให้ก้าวขึ้นไปตลอด ๆ เข้าใจมั้ย เป็นคนที่ค่อนข้างทะเยอทะยานก็พวกเรานี่แหละ นั้นแหละครับ บางทีก็เฟลบ้างเวลาที่ทำไม่ได้ดั่งใจ บางทีก็มีเรื่องครอบครัวบ้างที่ใคร ๆ ก็น่าจะรู้ ผมเล่าไว้เยอะมากเรื่องนี้
เรื่องที่ว่าตอนแรกคุณพ่อคุณแม่ก็เข้าใจแหละ แต่พอหลัง ๆ ที่เราคอสเพลย์ไปเรื่อย ๆ แล้วผลตอบรับคือเราเสียเงินไปกับการคอสเพลย์อย่างเดียว ไม่ได้ผลตอบแทนที่เป็นเม็ดเงิน นั่นแหละ ผลตอบแทนก็ได้แหละ แต่ผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมมันมองไม่เห็น เค้าก็เลยอยากให้เราเลิก อยากให้เราทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์ เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า ตอนนั้นเลยเฟล และคิดอยากเลิกเหมือนกัน เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราคิดว่าต้องเปลี่ยนแล้วมั้ง การคอสเพลย์ไม่ทำละ จะไปทำอย่างอื่น ตอนนั้นก็จับหลายอย่าง ทั้งการคอสเพลย์ เล่นดนตรี ทำงานศิลปะ ทำหลายอย่างมาก สุดท้ายแล้วเลยขอเค้าทำคอสเพลย์อีกครั้งนึง เอาให้ดี ๆ เอาให้เต็มที่ กลายเป็นว่าครั้งนั้นเราประสบผลสำเร็จ กลายเป็นติดลมบนไปเลย
Q: แปลว่าคุณก็ผ่านมันมาได้ด้วยการคอสเพลย์ใช่มั้ย
A: ใช่ ผ่านมาได้เพราะคุณนั่นแหละ จริง ๆ
Q: โอเค คำถามนี้ค่อนข้างโรแมนติกนะ
Q: คุณมองอนาคตข้างหน้าของเราสองคนไว้ยังไงบ้าง
A: ไม่ได้มองไว้เลยครับ ไม่ได้คิดไว้เลย เป็นคนทำอะไรที่ไม่เคยวางแผนซักอย่าง คุณก็น่าจะรู้ แต่เอาเป็นว่าเราก็น่าจะอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้วางแผน แต่ว่ามันเป็นเรื่องของธรรมชาติอะ อะไรเข้ามาเดี๋ยวก็รู้เอง บอกไม่ถูก เอาเป็นว่าเราก็น่าจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ แหละครับ ผมกับคุณอะ
Q: มีอะไรอยากจะบอกคนที่มีความชอบ ความฝันเหมือนกับพวกเราบ้าง
A: ถ้าอยากให้มันเป็นจริง คุณก็อย่าทำให้มันเป็นแค่ฝัน คุณต้องทำให้มันเป็นจริง ต้องลงมือทำเลย ไม่งั้นก็จะเป็นเพียงฝันอยู่ ได้มั้ย ได้มั้ยคุณ
Q: ได้ ได้ดิ
A: นี่ก็พูดมาเยอะแล้ว แล้วคุณไม่มีอะไรจะพูดกับผมเลยหรอ ขอซักหน่อยครับ
Q: โห ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณเยอะมากเลย คุณน่ะต้องพูดให้น้อยลงเวลาสตรีม คุณจะต้องเก็บเงินให้มากขึ้นกว่านี้ ต้องออกกำลังกายให้เยอะกว่านี้ เวลาคอสจะได้ดูเท่ ดูดีเหมือนที่ผมเป็นอยู่เนี่ย ให้มันดีกว่านี้ ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อเราจะได้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ไงล่ะ
อาร์ตโตะ – วิศรุตต์ ปองธนพิสิฐ (Al2TTO)
Q: แนะนำตัวหน่อย
A : สวัสดีครับ ชื่อ ‘อาร์ตโตะ’ นะครับ ‘วิศรุตต์ ปองธนพิสิฐ’ หรือว่าเด็ก ๆ บางคนอาจจะเรียกว่า ‘GM Al2TTO’ ก็ได้ครับ
Q : ยินดี… ยินดีแหละที่ได้เจอกัน (หัวเราะ) อยากรู้ว่าตอนนี้เราทำอะไรอยู่?
A : กำลังให้สัมภาษณ์อยู่ครับ (Q : กวนเนอะ) ล้อเล่น ๆ ช่วงนี้ก็ทำงานอยู่ค่อนข้างหลายอย่างเลย ก็มีทั้งการเป็น GM (Game Master) ทำสตรีม เป็นยูทูบเบอร์ด้วย คอสเพลย์ก็ยังทำอยู่ครับถ้าพี่เทมส์ว่าง
Q : อยากรู้เรื่องที่มาของการเป็น GM ว่าทำไมถึงตัดสินใจเลือกมาทำ
A : เรื่องนี้ความจริงต้องเล่าตั้งแต่เด็กเลย คือเราเป็นคนที่ชอบเล่นเกมมากตั้งแต่เด็ก โตมากับเกมตั้งแต่สมัยเครื่องยังเป็นสีขาวดำ ยังเป็นเครื่องแฟมิคอมใส่ตลับอยู่เลย เราเลยรู้สึกว่าอยากทำงานเกี่ยวกับเกม อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเกม โตขึ้นมาเนี่ยเราก็เหมือนกับ… ต้องบอกว่าตอนนั้นมันค่อนข้างยากนิดนึง เนื่องจากว่าเรื่องเกมอะไรต่าง ๆ ยังไม่ได้เปิดกว้างเหมือนสังคมปัจจุบัน การที่เราจะเรียนอะไรแล้วมาทำงานที่เกี่ยวกับเกมมันยากนะครับ เลยเลือกไปเรียนในสายที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เข้ามา ระหว่างเรียนก็มีโอกาสได้ไปแข่งเกม ทำนู่นทำนี่ แล้วเราก็รู้สึกว่าอย่างเราเนี่ยจะไปเป็นนักแข่งเกมมันอาจจะยากนิดนึง รวมไปถึงช่วงมัธยมต้นได้ไปเจอกับ GM ของเกมนึง ได้คุยแล้วสนิทกับเค้า เลยรู้สึกว่า ‘เฮ้ย เราก็อยากเป็น GM ที่สนิทกับผู้เล่น เราอยากทำงานในวงการเกม’
Q: เป็น GM เนี่ยเล่นเกมทั้งวันเลยเปล่า
A : ไม่จริงนะครับ มีแต่คนคิดว่า GM เนี่ยงานสบาย นั่งเล่นเกมไปวัน ๆ ต้องบอกว่าไม่จริงเลย คือการทำงานในวงการเกม หรือ การเป็น GM เนี่ยเหมือนการทำงานอื่น ๆ แหละ แต่ละคนก็มีหน้าที่ที่ต่างกันในการทำงาน บางคนอาจจะทำการตลาด บางคนอาจจะทำเกี่ยวกับการตรวจหาบัค การแก้บัคอะไรแบบนี้ ซึ่งมันอาจจะมีบางส่วนที่ต้องเล่นเกมบ้าง แต่ว่ามันไม่ใช่การเล่นเพื่อความสนุก มันเป็นการเล่นเกมเพื่อการทำงานครับ
Q : นี่คุณพูดมาตั้งนาน คุณยังไม่บอกผมเลยว่าคุณทำอะไรบ้าง
A : (หัวเราะ) ไม่อยากบอกเลย ๆ (Q : บอกสักนิดนึงได้ไหม) ทำได้ทุกอย่างแล้วกัน แต่ว่าถึงน้อง ๆ ที่จะเข้ามาถามนะครับ มีปัญหาอะไรเชิญติดต่อที่ฝ่ายบริการลูกค้านะครับ ไม่ต้องมาถามพี่นะครับ
Q : คุณจะมาพูดแบบนี้ได้ไงเนี่ย เดี๋ยวเด็กเค้ากลัวหมด คุณจะไล่ไปหาฝ่ายบริการลูกค้าอีกแล้ว ก็เชื่อเค้าหน่อยแล้วกันนะครับ งานเค้าจะได้ลดลง ต่อมาเราอยากรู้ว่าแล้วอะไรที่คนทั่วไปไม่รู้ เกี่ยวกับการทำงานว่า GM ทำอะไร
Q: การทำงานของ GM ที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้
A : อืมมม… ความจริงก็เมื่อกี้แหละ น้อง ๆ หลายคนชอบคิดว่า 1 เกมจะมี GM คนเดียว ทำหน้าที่ทุกอย่างเลย ตั้งแต่การเทสต์เกม แก้บัค อัปแพตช์เกม ทำอีสปอร์ต ทำมาร์เก็ตติง ทำการขายอะไรแบบนี้ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่เลย ต้องมองว่าเกมเกมนึงเป็นเหมือนบริษัทเล็ก ๆ บริษัทนึง แต่ละคนจะมีหน้าที่ต่างกัน บางทีในเกมนึงอาจจะมี GM ไม่กี่คน หรือจะเป็นหลายสิบคนเลยก็ได้ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีหน้าที่ เช่น บางคนทำอีสปอร์ตนะ บางคนทำการตลาด บางคนทำเกี่ยวกับบัค ซึ่งน้อง ๆ ส่วนใหญ่จะไม่รู้ เวลามีปัญหาก็จะมาด่า ก็เป็นคนโดนด่านะครับ (ยิ้ม) อย่าลืมนะครับ ฝ่ายบริการลูกค้านะครับ
Q : น่าสงสารเนอะ ที่คนน่าจะไม่รู้คือ GM น่าจะโดนด่าบ่อยมากครับ
A : อันนี้น่าจะรู้กัน เต็ม ๆ ! ทุกวันครับ
Q: ในมุมมองของคนที่ทำงานเป็น GM มาหลายปี บอกคุณสมบัติที่ต้องมีในการเป็น GM หน่อย
A : ความจริงอาจจะทุกการทำงานแหละ เราต้องมีความรักในงานเรา แล้วเราก็ต้องมีความรับผิดชอบนะครับ ส่วนเรื่องอื่น ๆ เรื่อง Hard skill หรือ Soft skill มันเรียนรู้กันได้ แต่ถ้าเกิดเราไม่มี passion, ไม่มีความรักในการทำงาน เราไม่รักในเกม แล้วมาทำงานเกมมันก็ทำได้ไม่ดี
Q : เราก็ทำงานเป็น GM, สตรีมเมอร์ เป็นคอสเพลเยอร์ด้วย อยากรู้ว่ามีโมเมนต์ไหนที่ประทับใจไหม ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในด้านไหนก็ตาม
A : โห น้ำตาจะไหลเลยนะครับ ความจริงก็ตอนที่เงินมันเข้าบัญชี เราก็จะรู้ว่า ‘โอ้ย วันนี้เราทำงานได้ตังค์แล้วเว้ย’ (หัวเราะ) อันนี้จริง คือเราทำงานอะน้อง เราทำงานเพื่อเงินนะครับ เราก็ต้องมีความสุขเวลาที่เงินเข้ามา ล้อเล่น… มันก็จริงส่วนหนึ่งแหละ แต่ต้องบอกว่าตั้งแต่เริ่มทำงานเป็น GM เมื่อก่อนทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ เป็น consult เกี่ยวกับ IT ต้องบอกว่างานตรงนั้นมันมีความมั่นคงมากกว่าค่อนข้างเยอะ ย้อนกลับไปประมาณ 7 – 8 ปีที่แล้ว วงการเกมยังไม่ใหญ่ขนาดนี้ การที่เราเลือกจะเปลี่ยนสายงานมาทำงานเกมเนี่ยต้องปรึกษากับครอบครัว แล้วบอกเลยว่าตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย การที่ครอบครับโอเคถือว่าเป็นเรื่องดี ๆ อย่างหนึ่งในชีวิตครับ
แล้วตอนที่เรามาทำงานในแต่ละปีก็จะมี milestone ของมัน เช่น เราทำเกมนี้ได้ดีนะ เรามีความคิดริเริ่มใหม่ ๆ ให้กับเกมนี้ ซึ่งมันก็เป็นความสุข เหมือนเป็นความสำเร็จของเราไล่มาเรื่อย ๆ ส่วนในการเป็นสตรีมเมอร์ เราก็ภูมิใจระดับหนึ่งว่า เราเป็นสตรีมเมอร์ที่โตค่อนข้างเร็วในช่วงปีแรก ๆ อาจจะเพราะว่าไม่มี GM คนไหนเค้ามาสตรีม เด็กไม่รู้จะด่าใครเลยเข้ามารุมด่า ก็ได้ 1 ล้าน subscribe ค่อนข้างไว ตอนที่ได้ล้าน subscribe ดีใจมาก แล้วก็ได้รางวัล… อาจจะจำชื่อไม่ค่อยได้นะครับ แต่เป็นรางวัลที่เหมือนยูทูบเบอร์ที่มีการเติบโตที่เยอะมาก ๆ YouTube ก็ส่งรางวัลมาให้ อันนี้ก็ดีใจเหมือนกัน (Q : ปรบมือ)
Q : เรียกว่าเป็นโมเมนต์หล่อ ๆ ของเราแล้วกันเนอะ
Q: มีโมเมนต์ไหนที่รู้สึกผ่านไปได้อย่างยากลำบาก หรือรู้สึกแย่บ้างไหม แล้วเราผ่านมันมาได้ยังไง
A : ตอบใน 2 เชิงแล้วกัน เชิงแรกก็เป็นเรื่องการทำงานครับ การทำงานมันมีความยากในทุก ๆ วันอยู่แล้ว โดยเฉพาะสายงาน IT อยู่ดี ๆ เกมมันพังขึ้นมา หรือ เกมมันเกิดบัคขึ้นมา มันต้องหาสาเหตุแล้วเราก็แก้ปัญหาไปทุก ๆ วัน มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ Crisis management ค่อนข้างเยอะ แล้วบางทีมันก็มีความกดดันมาจากทางผู้เล่นและตัวเราเอง ที่เราอยากทำเกมออกมาให้ดี ส่วนอีกเชิงนึงคือในด้านสตรีมเมอร์แล้วกัน ความจริงก็มีน้อง ๆ เพื่อน ๆ พี่ ๆ หลายคนเข้ามาคุยกันเยอะ ต้องบอกว่าเพจของอาร์ตเองเป็นเพจที่น่าจะโดนด่าเยอะที่สุดจากเด็ก ๆ ทั้งหลาย เค้าก็จะชอบมาถามว่าแล้วเรามีวิธีการจัดการกับความคิดตัวเองยังไง จัดการกับพวก toxic แบบนี้ยังไง ซึ่ง… ไม่รู้ว่าพูดดีมั้ย แต่ว่าก็พูดแล้วกันเนอะ
พอดีในเพจเนี่ย ถ้าน้อง ๆ เข้ามาใช้คำไม่ดี เราก็จะใช้คำไม่ดีกลับไปบ้างนะครับ วันนั้นเพิ่งไปบรรยายเกี่ยวกับเรื่องการบูลลี การใช้โซเชียล ของนายแพทย์จากกรมสุขภาพจิตมา เค้าก็บอกว่ามันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ แต่ว่าก็แล้วแต่เรานะ คุณหมอบอกว่าแล้วแต่เรา คุณหมอให้คำแนะนำว่าเวลาที่มีคนโยนหินมาใส่เรา เราเลือกได้ว่าเราจะรับหิน หรือ เราจะโยนกลับ แต่ว่าในเพจก็น่าจะโยนกลับไปบ่อย ๆ นะครับ ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าน้อง ๆ พี่ ๆ หลาย ๆ คน เค้าก็จะมาถามว่าแล้วพี่อาร์ตไม่รู้สึกดาวน์อะไรแบบนี้บ้างเหรอ บางทีเราต้องคิดว่าสิ่งที่เค้าอาจจะโตมาในสังคมที่อาจจะไม่เหมือนเราด้วย เค้าอาจจะมีความไม่รู้บ้าง เช่น ทำไมอันนี้เกิดบัค ไม่รู้จะด่าใคร ก็มาด่าเรา ซึ่งเราก็พยายามหาจุดดีจากตรงนั้น เช่น “อ้อ เค้ากลับมาด่าเรา เราก็ได้ยอด engagement เราก็ได้เงิน เราได้เงิน โอเคงั้นก็ด่าไป” เราก็จะชิล ๆ หน่อย
Q : เอาแบบสั้น ๆ แล้ว วิธีการรับมือกับ เด็ก ๆ เกรียน ๆ แล้วกัน เราทำยังไง
A : ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ว่าก็นะ… ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าเด็กเกรียนคนนั้นยังมีประโยชน์อยู่ในสตรีมของเพื่อน ๆ สามารถสร้างรายได้ให้เพื่อน ๆ ได้ ไม่ได้เกรียนจนเกินไปเพื่อน ๆ ก็เก็บไว้นะครับ แต่ถ้ารู้สึกว่าเกรียน หรือ toxic จนเกินไป เราก็สามารถเตะเค้าออกจากเพจได้ จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเค้าอีกต่อไปนะครับ
Q : สรุปคือว่าต้อง คอ – วอ – ยอ : คิด วิเคราะห์ แยกแยะ นะครับ ว่าคนนี้เค้าเหมาะกับเพจเราหรือเปล่า ใช่มั้ย แล้วก็จัดการแก้ไขปัญหา ตามสถานการณ์ไป
Q: อยากบอกอะไรกับน้อง ๆ ที่สนใจทำงานเกี่ยวกับเกม
A : ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน GM, สตรีมเมอร์, เกมเมอร์ ทุกอย่างเนี่ย ตอนนี้วงการเกมมันใหญ่มากนะครับ เราอยากเป็นอะไรเราลองเป็นได้เลย เรามีเวลา เด็กหลาย ๆ คนชอบบอกว่า “ผมจะเลิกเรียนแล้วครับ ผมจะมาเป็นสตรีมเมอร์” เอาจริง ๆ ไม่ขายฝันนะครับน้อง แต่ว่าการจะเป็นสตรีมเมอร์ที่ประสบความสำเร็จได้เนี่ยมันน้อยมาก ๆ เราควรจะตั้งใจเรียนก่อน ส่วนงานเกี่ยวกับเกม หรือว่าอย่างอื่นเนี่ยถือว่ามันเป็นงานอดิเรก ถ้าจะให้ลงไปลึกอีกก็ควรจะวิเคราะห์ตัวเองนิดนึงนะครับว่าเราเก่งในการทำอะไร งานในวงการเกมมันมีเยอะมาก ๆ บางคนอาจจะโฟกัสที่การเป็นสตรีมเมอร์อย่างเดียว ซึ่งมันไม่ใช่นะครับ อย่างพี่เนี่ยก็มาเป็น GM มันจะมีอาชีพเป็นทั้งนักพากย์ เป็นนักแคสเกม เป็นสตรีมเมอร์ เป็นนักแข่ง เป็นโค้ชก็มี หรือถ้าจะเป็นอาชีพสายอื่นมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มาดูแลเรื่องสุขภาพนักแข่งก็มี มันมีเยอะมาก ๆ เราต้องดูและวิเคราห์ตัวเองว่าเราถนัดในสายงานด้านไหน แล้วก็โตไปในด้านนั้น
Q : อาชีพในวงการเกมเยอะขนาดนี้ ถ้าใครอยากรู้รายละเอียด GARENA มีเว็บไซต์ www.garenaacademy.com ที่รวบรวมอาชีพเกี่ยวกับวงการเกมทั้งหมดให้น้องเข้าไปศึกษาได้ มีบทสัมภาษณ์จากพี่ ๆ ที่เค้าทำงานมาก่อนด้วย
A : นี่คุณถามผมอย่างเดียว คุณไม่คิดจะตอบอะไรสักหน่อยเหรอ ผมอยากให้คุณพูดอะไรถึงผมก็ได้ หรือถึงชีวิตของเราก็ได้ว่าเราอยากจะเป็นยังไงต่อไป
Q : ความจริงผมมาเป็นพิธีกรนะ อยู่ดี ๆ ผมต้องมาตอบด้วยเหรอ ก็ได้… ตอบก็ได้ ถ้าจะให้พูดอะไรถึงคุณ ตอนนี้พี่เทมส์ก็จะกินหัวแล้ว เนื่องจากไม่ออกกำลังกาย หัดออกกำลังกายบ้าง แล้วก็อย่านอนดึก ช่วงนี้ก็เห็นนอนไม่เป็นเวลานอน ตี 4 – ตี 5 บ้าง ก็ตื่นมาทำงานเช้าอีก เดี๋ยวจะตายไวนะ เงินที่หาไว้เดี๋ยวจะไม่ได้ใช้ แต่ว่าก็อย่าลืมสบายจนเกินไป อย่าลืมหาเงินนะครับ มีคนเค้าบอกว่า ความมั่งคั่งใช้ซื้อสวรรค์ไม่ได้ แต่เราใช้ความมั่งคั่งสร้างสวรรค์ได้ ไปสร้างสวรรค์ของเรากัน
Model : เทมส์ – สรณ ขุนพลพิทักษ์ (Thames malerose) & อาร์ตโตะ – วิศรุตต์ ปองธนพิสิฐ (Al2TTO)
Photographer : Franken.STL
Stylist : Patipan Jaksukan
Editor-in-Chief : Natthida Ratchawong
Producer : Ployrawee Choksuchanun
Content Creator : Aditchaya Sukprasert, Palita Iamnoppakhun
