“ ในโลกมนุษย์น่ะ… ไม่มีความยุติธรรมที่ง่ายหรอก “
คำกล่าวของตัวละครใน Episode 1 ที่สะท้อนเรื่องราวที่ซีรีส์ The devil judge ออกมาได้เป็นอย่างดี
ซีรีส์ The Devil Judge ได้ออกอากาศครั้งแรกเมื่อช่วงต้นกรกฎาคมทางช่อง tvN นำแสดงโดย จีซอง, คิมมินจอง, พัคกยูยองและ พัคจินยองแห่งวง GOT7 ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวในเกาหลีแบบสมมติ หรือที่เราเรียกกันว่า พล็อตดิสโทเปีย ที่แตะต้องประเด็นดราม่าทางสังคมได้อย่างดุเดือด
ซึ่งใน EP.1 อย่างแรกที่ประทับใจในตัวซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ ภาพสวย ๆ เปิดซีนความศิวิไลซ์ของกรุงโซลยามค่ำคืน ผู้พิพากษา ‘คิม โยฮัน’ กับรถคันหรู ประกอบกับ background sound เท่ๆ อย่าง ‘ Drop the games’ ของ Flume, Chet Faker ในช่วงระหว่างเดินทางไปยังงานการแถลงข่าวสำหรับรายการพิพากษาสด
ซึ่งซีรีส์จะกล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดจากจากโรคระบาดใหม่ที่ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงในเกาหลีก็ด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้คนล้มป่วยและหลายธุรกิจพังพินาศ ประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก จนก่อให้เกิดเหตุประท้วงและจราจลภายในกรุงโซล
เนื่องจากคนจำนวนหนึ่งกลับมีความรู้สึกว่า ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มที่กลับมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจนเกินไป บนความทุกข์ยากเดือดร้อนของผู้อื่น คนเหล่านั้นสมควรได้รับการพิจารณาโทษ อีกทั้งสภาพสังคมเกาหลีในตอนนี้ ขาดซึ่งความน่าเชื่อถือในระบบตุลาการ ประธานาธิบดีของประเทศจึงได้ทำการเปลี่ยนศาลยุติธรรมให้กลายเป็น รายการเรียลลิตี้ พิพากษาสด โดยให้ผู้ชมทางบ้านมีอารมณ์ร่วมกับทุกขั้นตอนการตัดสินและสามารถกดผลโหวตให้กับคดีนั้น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งการพิพากษานี้จะนำโดยผู้พิพากษา ‘คิมโยฮัน’ (รับบทโดย จีซอง) ร่วมด้วยผู้พิพากษาอีก 2 ท่านอย่างคิม ‘กาอน’ (พัคจินยอง GOT7) และ ‘โอจินจู’
การเข้าร่วมรายการพิพากษาสดของ ‘คิม กาอน’ นั้น ได้รับการสนับสนุนจาก ‘มินจองโฮ’ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาสูงสุดในขณะนั้น ที่อยากส่งคนของตัวเองเข้าไปร่วมการพิจารณาเพื่อดูว่ามีความไม่ชอบมาพากลในการพิจารณาคดีหรือไม่ ด้วยชื่อเสียงของคิม โยฮันนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าไร้ซึ่งความปราณี ไม่สนว่าคน ๆนั้นจะมีอำนาจล้นฟ้ามาจากไหน ‘คิม โยฮัน’ เปรียบดังแสงสว่างสุดท้ายในอุโมงค์ที่บิดเบี้ยวที่เรียกว่ากระบวนการยุติธรรมของประชาชน
คดีแรกที่ ‘คิม โยฮัน’ เลือก คือคดีเกี่ยวกับความประมาทปล่อยให้สารเคมีรั่วไหลสู่ชุมชนของบริษัทเจยูเคมิคอล ซึ่งผู้ที่เกี่ยวของกับคดีดังกล่าวล้วนแต่เป็นผู้มีอิทธิพลในเกาหลี นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ผู้พิพากษาสูงสุด ‘มิน จองโฮ’ เกิดความสงสัยว่า การที่ คิม โยฮัน เลือกคดีที่ใหญ่ขนาดนี้เป็นคดีเปิดรายการนั้นมีเจตนาใดเคลือบแฝงหรือไม่ จนแล้วจนรอด คิม กาอน ก็ได้กลิ่นไม่ชอบมาพากลระหว่างทางที่จะพิจารณาคดีนี้ จึงได้ตามสืบและสะกดรอยตาม คิม โยฮัน มากขึ้น และตลอดการสืบเสาะเรื่องราวของ คิม โยฮัน จากคำบอกเล่าและหลักฐานทุกอย่างที่ คิม กาอน ได้พบแทบจะตรงกันว่า คิม โยฮัน นั้นคือปีศาจอย่างปฏิเสธไม่ได้
เรื่องราวได้ดำเนินไป พร้อมกับ คิม กาอน ที่จับพลัดจับผลูย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของ คิม โยฮัน และในตรงนี้เองที่ทำให้ คิม กาอน ได้พบกับเรื่องราวในอีกมุมมองหนึ่งที่เป็นเบื้องหลังของความยุติธรรมที่ไม่ได้งดงามและขาวสะอาดเหมือนอย่างที่เข้าใจ
รวมไปถึงเรื่องราวในอีกด้านหนึ่งของ คิม โยฮัน ว่าไม่ได้ตรงกับทุกอย่างตามที่เขาได้เข้าใจหรือรับฟังมาจากผู้อื่น ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ คิม กาอน เข้าอกเข้าใจ คิม โยฮัน ได้ดีขึ้น แต่กลับเป็นคิม กาอนกลับได้รับความแคลงใจบางอย่างจากคนรอบข้างจากการที่เขามีความเข้าอกเข้าใจในตัวโยฮันมากขึ้น
การพิจารณาคดียังคงดำเนินต่อไป เกมของคิม โยฮันในการเลือกคดีต่าง ๆ มาพิจารณาเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะคดีต่าง ๆ ล้วนเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคนระดับสูงในมูลนิธิเพื่อสังคมและกระทรวงยุติธรรมทุกคนล้วนเกี่ยวข้องกับอดีตของโยฮันทั้งสิ้น อย่างเช่นคดีถัดมาที่ คิม โยฮัน นำขึ้นพิพากษา ทุกคนล้วนมองว่าคดีทำร้ายร่างกายที่ได้มีการยอมความ และใช้เงินปิดปากไปนั้นเป็นเรื่องเล็กเกินกว่าจะนำคดีนี้ขึ้นพิพากษาสด แต่จำเลยนั้นดันเป็นลูกชายของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และพฤติกรรมนี้ถูกระทำบ่อยจนเกิดเป็นนิสัย โยฮันจึงตัดสินลงโทษด้วยการเฆี่ยนถึง 30 ครั้ง ฟังดูโหดร้าย แต่การตัดสินในครั้งนี้ คิมโยฮันยิ่งได้รับความนิยมจากประชาชนเพิ่มอีกหลายเท่าตัว
แม้ว่าในเรื่องทั้งหมดที่พูดถึงนี้จะเป็นแค่เพียง 1 ใน 3 ของซีรีส์แต่อย่างหนึ่งที่ตระหนักได้ก็คือ ในทุกครั้งของการเริ่มต้นทุก EP. ตัวซีรีส์จะเตือนเราเสมอว่า เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องราวสมมติที่เกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่ง แต่ในความรู้สึกนั้นกลับไม่ได้รู้สึกว่าเกินจริงแต่อย่างใด เราจะมีความรู้สึกขบคิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าสิ่งที่โยฮันทำนั้นถูกหรือไม่
รวมไปถึงความน่าสนใจของอีกตัวละของหนึ่งที่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือ ‘จอง ซอนอา’ ที่ก็มีความเกี่ยวข้องกับ คิม โยฮัน ในอดีตเช่นกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้นำเสนอในมุมของความเป็นซีรีส์วายอย่างชัด แต่ด้วยมุมกล้อง บทสนทนาและองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างก็ชวนให้คิดเช่นนั้นได้ไม่ยาก ความโบรแมนซ์บางอย่างระหว่างโยฮันและกาอนที่ได้ถ่ายทอดสู่คนดูนั้นกลับสมูตไปกับเนื้อเรื่อง ไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดความเป็นวายแต่อย่างใด จุดนี้ต้องยอมรับว่า ทำออกมาได้ดีมากจริง ๆ
ปัจจุบันซีรีส์ได้ดำเนินเข้าสู่ช่วงท้ายเรื่องแล้ว ซึ่งยังคงความเข้นข้นขึ้นในทุกตอน สามารถรับชมความสนุก ตื่นเต้นและไขปริศนาทุกอย่างไปพร้อมกับ ‘คิม กาอน’ ได้ทาง tvN ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ หรือรับชมได้ทางแอปพลิเคชัน Viu Premium ทุกวันอาทิตย์และจันทร์
The Devil Judge
- บทประพันธ์โดย : Moon Yoo-Seok
- กำกับการแสดงโดย : Choi Jung-Kyu
- ผลิตโดย : tvN
- ช่องทางการรับชม : VIU PREMIUM ทุกวันอาทิตย์ – วันจันทร์
บทความที่เกี่ยวข้อง
